กระชังบ้านมังกร เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา (ดูภาพด้านล่าง)
หมายเหตุ : เนื้อหาและรูปภาพในหัวข้อเกาะยาวน้อยนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 หน้า ท่านสามารถ click link ตัวเลขที่ด้านล่างสุดของหน้า เพื่อชมข้อมูลและรูปภาพในหน้าต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ
“การเลี้ยงกุ้งมังกรและปลาในกระชัง” กระชังเลี้ยงปลาและกุ้งมังกรของชาวบ้านซึ่งลอยอยู่โดยรอบเกาะยาวน้อยเคยได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 ภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้านบางส่วนก็ถอดใจเลิกกิจการกระชังเลี้ยงปลาไป แต่ก็ยังมีชาวบ้านส่วนหนึ่งซึ่งตัดสินใจรวมตัวกันซ่อมแซมกระชังแล้วช่วยกันเลี้ยงปลาและกุ้งมังกรขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ “กระชังบ้านมังกร” ปัจจุบัน (พ.ศ. 2553) “กระชังบ้านมังกร” เป็นกระชังเลี้ยงปลาและกุ้งมังกรที่ใหญ่ที่สุดของเกาะยาวน้อย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ลงความเห็นร่วมกันว่าหากมาเกาะยาวน้อยแล้วไม่หาโอกาสมาเที่ยวที่นี่ให้ได้ คุณก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนักว่า “มาถึงเกาะยาวน้อย” แล้วจริง ๆ
|
ในภาพซ้ายมือสุด "บังหนีด" กำลังสาธิตการจับ "ปลาปักเป้าหนาม" ตัวเป็น ๆ ด้วยมือเปล่า
และ "น้องอร" (ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม) กำลังทดลองจับ "กุ้งมังกร 7 สี" ในภาพขวามือสุด |
|
ลูกหมึกสายที่นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งตกได้บริเวณ "กระชังบ้านมังกร" (ภาพที่สองจากซ้าย) ,
"ฉลามลายเสือดาว"แสนเชื่องที่คุณสามารถลูบไล้แผ่นหลังของมันไปมาไ้ด้โดยไม่มีอันตราย
(ภาพที่สามจากซ้าย)
และปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่มีให้ชมภายในกระชัง (สองภาพด้านข้าง) |
|
ปลาโนรีครีบยาว ,กุ้งมังกร 7 สี ,"บังหนีด" กำลังสาธิตการจับ "ปลาปักเป้ากล่องลายจุด"
และบรรยากาศด้านหน้า "กระชังบ้านมังกร" (เรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวา) |
“กระชังบ้านมังกร” ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าหาดแหลมไทร การไปเยี่ยมชมกระชังนั้นต้องนั่งเรือหัวโทงจากชายหาดออกไปอีกประมาณ 5 นาที “บังหนีด” และ “บังดำ” หุ้นส่วนใหญ่ของกระชังบ้านมังกรเล่าให้พวกเราฟังว่าทำกระชังเลี้ยงปลาและกุ้งมังกรมาเกือบ 20 ปีแล้ว (รวมถึงตอนที่เกิดภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิด้วย) แต่เพิ่งเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเยี่ยมชมมาแค่ประมาณ 3 ปี (ประมาณปี พ.ศ. 2549 – 2550) สำหรับสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆซึ่งมีให้ชม ณ กระชังบ้านมังกร เช่น กุ้งมังกร 7 สี ,ปลาปักเป้า ,ปลาหมอทะเล ,ปลาไหลมอเรย์ ,ปลาการ์ตูน ,ปลาโนรีครีบยาว ,ปลาผีเสื้อ ,ปลาสิงโตปีกจุด ,ปลานกแก้ว ,ฉลามลายเสือดาว ,ฉลามครีบดำ ,ปลาสลิดหิน ,ดาวทะเล ,ดอกไม้ทะเล และหอยมือเสือ เป็นต้น สำหรับกระชังบ้านมังกรนี้มีความพิเศษกว่ากระชังแห่งอื่น ๆซึ่งพวกเราทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเคยไปเที่ยวมา คือ ปลาทะเลต่าง ๆในกระชังบ้านมังกรนั้นจะถูกเลี้ยงจนเชื่องและคุ้นเคยกับคนทำให้สามารถยื่นมือลงไปให้อาหารปลาเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น “บังหนีด” จะช่วยสอนวิธีการจับปลาในกระชังขึ้นมาเล่นบนมือให้นักท่องเที่ยวชม (ใช้อาหารล่อให้ปลาเข้ามาใกล้ ๆ แล้วจึงใช้มืออีกข้างหนึ่งช้อนตัวมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว) ซึ่งทีมงานของเรามีโอกาสทดลองจับกุ้งมังกร 7 สี ,ปลาปักเป้ากล่อง ,ปลาปักเป้าหนาม ,ปลาโนรีครีบยาว และฉลามลายเสือดาวด้วยมือเปล่าด้วย สำหรับกุ้งมังกร 7 สีนั้นต้องจับให้ถูกวิธีโดยการรวบหนวดยาว ๆทั้งสองข้างของมันขึ้นมาพร้อม ๆกันแล้วจับยึดให้มั่นมิฉะนั้นกุ้งมังกรจะดีดตัวไปมาอย่างแรงจนหลุดมือได้ และหากคุณทำกุ้งมังกรหลุดมือไปกระแทกพื้นกระชังสิ้นชีพล่ะก็ คุณจะต้องจำใจซื้อซากของมันไปในราคาเป็นหลักพันเลยทีเดียว (กุ้งมังกร 7 สีเป็น ๆราคากิโลกรัมละประมาณ 1,500 – 2,200 บาทเป็นอย่างน้อย ทีมงานของเราต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากขณะจับกุ้งชนิดนี้และก็โชคดีที่ไม่มีใครทำกุ้งมังกร 7 สีหลุดมือครับ) ส่วนปลาปักเป้านั้นตอนแรกทีมงานของเราไม่กล้าจับ แต่ “บังหนีด” ก็ยืนยันว่าจับได้ไม่มีอันตรายแถมจับโชว์ให้ดูซะอีก ไม่ว่าจะเป็นปักเป้าหนาม (ปักเป้าที่พองแล้วจะมีหนามชูออกมารอบตัว) หรือปักเป้ากล่องลายจุด “บังหนีด” ก็จับด้วยมือเปล่า ๆได้ไม่มีปัญหา พอพวกเราเห็นก็เลยลองทำตามบ้าง เจ้าปักเป้าหนามนี้ค่อนข้างน่าสงสารอยู่สักหน่อยเพราะเมื่อจับมันขึ้นมาจากน้ำทะเลมันจะดูดอากาศเข้าไปแล้วพองตัวออก พอจับมันลงไปในกระชังอีกครั้งมันก็จะลอยตุ๊บป่อง ๆอยู่บนผิวน้ำโดยไม่สามารถว่ายดำลงไปใต้น้ำทะเลได้จนกว่าจะค่อย ๆปล่อยลมออกจากตัวจนหมด (ลองจินตนาการถึงการดึงลูกโป่งอัดอากาศลงไปใต้ผิวน้ำ ลูกโป่งจะต้องลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำแน่นอน.....จริงไหมครับ?) ต่างกับเวลาซึ่งมันพองตัวชูหนามอยู่ใต้ผืนน้ำทะเลที่มันจะสามารถยุบตัวลงได้อย่างรวดเร็วและว่ายไปมาในขณะพองตัวได้อย่างสะดวกเนื่องจากการพองตัวของปลาปักเป้าในทะเลนั้นจะอาศัยการดูดน้ำเข้าไปในร่างกายแล้วพองตัวขึ้นและจะยุบตัวลงโดยการปล่อยน้ำออกจากร่างกาย (ไม่เหมือนการพองตัวด้วยการดูดอากาศเข้าไปในขณะที่พวกเราจับมันขึ้นมาเล่นเหนือผิวน้ำครับ)
|
จากท่าเรือหาดแหลมไทรจะสามารถมองเห็นกระชังเลี้ยงปลาและกุ้งมังกรซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักได้ |
|
บรรยากาศหลากหลายมุมมองใกล้ ๆ ท่าเรือ |
|
"กระชังบ้านมังกร" คือ
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งคุณไม่ควรพลาดการมาเยี่ยมเยือนหากมีโอกาสได้เดินทางมายังเกาะยาวน้อย |
“ฉลามลายเสือดาว” เป็นสัตว์น้ำอีกชนิดหนึ่งที่ทีมงานของเราได้สัมผัสตัวของมันด้วยมือเปล่า ลักษณะของฉลามลายเสือดาวจะมีลำตัวสีเหลืองแกมน้ำตาล มีจุดดำ ๆเป็นลายแต้มประดับอยู่ทั่วร่างกายดูคล้ายกับลายจุดของเสือดาวอันเป็นที่มาของชื่อ ดูจากบนผิวน้ำจะคิดว่าผิวหนังของมันน่าจะเป็นมันลื่นแต่พอได้ลองสัมผัสจริง ๆจะพบว่าแท้จริงแล้วลักษณะผิวของมันสากและหยาบคล้ายกับผิวของกระดาษทราย เจ้าฉลามลายเสือดาวที่กระชังบ้านมังกรนี้เชื่องมากและยอมให้พวกเราลูบหลังมันเล่นไปมาโดยไม่แสดงอาการหงุดหงิดแต่อย่างใด บอกได้เลยว่าประสบการณ์ในการจับกุ้งมังกรและปลาชนิดต่าง ๆด้วยมือเปล่า ณ กระชังบ้านมังกรนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวในชีวิตซึ่งพวกเราจะประทับใจไปไม่รู้ลืม (โดยปกติกระชังปลาแห่งอื่น ๆ จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสัมผัสกับสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆในกระชังเลย จะได้ก็แค่ดู ,ให้อาหารปลาบนกระชัง หรือตกปลาเท่านั้น) นอกจากการจับสัตว์น้ำในกระชังด้วยมือเปล่าแล้ว กระชังบ้านมังกรยังมีบริการตกปลาเล่นรอบกระชัง (นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มซึ่งแวะไปเยี่ยมชมกระชังพร้อมกับพวกเราตกได้ลูกปลาหมึกสายด้วยครับ) หรือรับประทานอาหารเย็นพร้อมชมพระอาทิตย์ตกบนกระชังอีกด้วย
“การปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ ทำสวนผัก – ผลไม้ สวนมะพร้าว” นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นวิถีชุมชนต่าง ๆเหล่านี้ได้ระหว่างนั่งรถเที่ยวรอบเกาะยาวน้อย การทำนาปลูกข้าวจะเป็นนาน้ำฝน (รอฝนตกในช่วงฤดูฝนแล้วจึงเริ่มทำนา) สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นกระบือ (ควาย) ,วัว หรือแพะ ส่วนการทำสวนผัก – ผลไม้ และสวนมะพร้าวนั้นส่วนมากมักจะทำเพียงเพื่อไว้บริโภคในครัวเรือน จะส่งขายก็เพียงแค่ในตลาดบนเกาะหรือส่งมะพร้าวไปแปรรูปทำน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น
|