เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
|
หน้า 1 ข้อมูลพื้นฐานเกาะเต่า , หาดทรายรี , แหลม จ.ป.ร. , แหลมยายณี
เนื้อหาในบทความ “เกาะเต่า” นี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 หน้า ท่านสามารถ Click link ทางด้านล่างบทความเพื่อชมข้อมูลและภาพถ่ายในแต่ละหน้าได้ตามความต้องการ
ในครั้งอดีต “เกาะเต่า” เคยเป็นเพียงแค่เกาะร้างที่ชาวประมงจากเกาะพะงันและเกาะใกล้เคียงแห่งอื่นๆ ใช้เป็นสถานที่จอดเรือพักหลบคลื่นลม ก่อนที่จะออกเดินเรือหาปลาต่อไปเมื่อมรสุมพัดผ่านพ้น .....ในครานั้น.....เกาะแห่งนี้ยังเคยมีเต่าทะเลเดินต้วมเตี้ยมเตาะแตะขึ้นมาบนหาดทรายรอบๆ เกาะเพื่อขุดหลุมวางไข่อยู่เป็นประจำทุกๆ ปี .....แต่เมื่อเวลากาลผ่านไกล.....หลังจากที่นักท่องเที่ยวแบกเป้กลุ่มแรกเดินทางมายังเกาะเต่าและได้ค้นพบความงดงามราวกับสรวงสวรรค์ของเกาะแห่งนี้ พวกเขาก็ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ต่อๆ กันไปจนทำให้ “เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี” กลายเป็นแหล่งดำน้ำตื้น – ดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก.....และแล้ว.....เต่าทะเลจำนวนมากซึ่งเคยอาศัยชายหาดของเกาะแห่งนี้สร้างรังวางไข่ก็ได้อพยพย้ายถิ่นหนีไป
|
.........................ณ สะพานท่าเทียบเรือ อ่าวแม่หาด.........................
|
ประตูสู่เกาะเต่า : ท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาด
.....ปัจจุบัน.....จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมายังเกาะเต่าเพื่อดำน้ำตื้น – ดำน้ำลึกนับแสนคน/ปี (คุณสามารถตรวจสอบราคาและรายละเอียดโปรแกรมทัวร์ดำน้ำ “เกาะเต่า – เกาะนางยวน” ได้โดยการ Click link ในตาราง “โปรแกรมทัวร์ใน จ.สุราษฎร์ธานี” ซึ่งวางอยู่หน้าสุดท้ายของบทความชิ้นนี้ครับ) ทำให้สภาพแวดล้อมของเกาะแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตเป็นอย่างมาก จากเกาะร้างที่ไร้ซึ่งผู้คนก็มีการสร้างท่าเทียบเรือ มีการตัดถนนคอนกรีตทอดยาวไปยังชายหาด – อ่าวสำคัญๆ เกือบทุกแห่ง มีตึกแถว.....ร้านรวง.....รีสอร์ทผุดขึ้นรอบเกาะราวกับดอกเห็ด และจากการที่นักท่องเที่ยวในยุคแรกๆ เคยต้องนั่งเรือประมงของชาวบ้านออกไปดำน้ำ.....ทุกวันนี้.....ก็มีเรือหางยาวและเรือทัวร์เข้ามาให้บริการแทน
|
..........นี่คือ.........................สัญลักษณ์ของ เกาะเต่า..........
|
ท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาด เป็นท่าเทียบเรือพาณิชย์แห่งแรกและแห่งเดียวของเกาะเต่าที่นักท่องเที่ยวทุกๆ คนจะต้องใช้ในการเดินทางสัญจรไป – มาระหว่างเกาะแห่งนี้กับเกาะอื่นๆ .....โดยปกติ.....เมื่อถึงเวลาที่เรือเฟอรี่ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวเข้ามาจอดเทียบท่า จะมีผู้ประกอบการรถโดยสารบนเกาะเต่าแวะเวียนเข้ามาร้องเรียกเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปใช้บริการรถของตน ใครที่ไม่ได้จองห้องพักบนเกาะเต่าเอาไว้ล่วงหน้าหรือจองห้องพักเอาไว้แต่ทางโรงแรม/รีสอร์ทไม่มีบริการรถ/เรือรับ – ส่งก็อาจจำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารเหล่านี้
“อ่าวแม่หาด” ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเกาะเต่า บริเวณอ่าวแห่งนี้มีทั้งแผงลอยจำหน่ายอาหารราคาประหยัดไปจนกระทั่งถึงภัตตาคารริมชายหาดราคาแพง , มีเกสต์เฮ้าส์/โรงแรม/รีสอร์ท ที่เหมาะกับคนหลากหลายระดับ , มีธนาคารหลักๆ ตั้งอยู่ 4 – 5 แห่ง , มีร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำให้เลือกจนละลานตา , ฯลฯ.....อย่างไรก็ตาม.....เนื่องจากอ่าวแม่หาดเป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือพาณิชย์ จึงทำให้สีของน้ำทะเลและหาดทรายในบริเวณนี้ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่นัก หากคุณอยากจะนอนเอกเขนกกลางหาดทรายสีสวยๆ พร้อมกับลงเล่นน้ำทะเลใสๆ แนะนำว่าให้เลือกพัก ณ ชาดหาดแห่งอื่นๆ จะดีกว่า.....แต่ทั้งนี้.....บางคนก็อาจจะมีคำถามว่า แล้วเราจะมีทางเลือกในการเดินทางจากท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาดไปยังชายหาดแห่งอื่นรอบๆ เกาะเต่าได้อย่างไรกันล่ะ ?
|
ก้อนหิน กับ ท้องทะเล...............และ ต้นมะพร้าวที่ยืนเท่ห์อยู่ริมชายหาด
|
อยากจะสำรวจ “เกาะเต่า” ให้ทั่วควรทำอย่างไร ?
เกาะเต่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตรและถึงแม้จะมีบริการเรือข้ามฟากนำรถยนต์ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเกาะแห่งนี้แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมนัก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่สูงถึง 2,500 บาท/เที่ยว (มีบริษัทเรือข้ามฟากซึ่งรับขนส่งรถยนต์จาก “ท่ายาง จ.ชุมพร” มายังเกาะเต่า 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทเรือพรทวีสินและบริษัทเกาะเจริญ โดยทั้งสองบริษัทจะสลับกันวิ่งเรือวันเว้นวันตั้งแต่วันจันทร์ - วันเสาร์และหยุดวิ่งเรือเฉพาะในวันอาทิตย์ครับ)......เพราะฉะนั้น.....หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะนอนเอกเขนกอยู่แค่ในโรงแรม/รีสอร์ท แต่อยากจะออกไปสำรวจความสวยงามรอบๆ เกาะเต่าให้ถ้วนทั่ว คุณก็มีทางเลือกหลักๆ อยู่ 3 – 4 ประการ ได้แก่
1. ติดต่อซื้อ “ทัวร์ดำน้ำเกาะเต่า – เกาะนางยวน” : แล้วนัดแนะให้ผู้ประกอบการจัดรถมารับ – ส่งที่โรงแรม/รีสอร์ท (กรณีที่คุณติดต่อซื้อ “ทัวร์ดำน้ำเกาะเต่า – เกาะนางยวน” จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมจะมีบริการจัดรถรับ – ส่งระหว่างรีสอร์ทกับท่าเรือให้ฟรีในวันออกทัวร์ แต่กรณีที่คุณเลือกพัก ณ รีสอร์ทซึ่งไม่มีถนนคอนกรีตเข้าถึง.....เราก็อาจจะไม่สามารถจัดรถรับ – ส่งให้ได้ครับ) ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวผู้ซึ่งอยากจะสำรวจความอุดมสมบูรณ์แห่งโลกใต้ทะเลของเกาะเต่า และยังมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะนางยวนอันแสนสวยงาม หากคุณมีวันหยุดพักผ่อนน้อยและไม่อยากจะเสียเวลาไปกับเรื่องจุกจิกชวนปวดหัว.....การซื้อทัวร์ก็นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว
|
ใครๆ ก็บอกว่า.....หาดทรายรี.....คือ หาดทรายที่สวยที่สุดของเกาะเต่า ?
|
|
.........................เดียวดายกลางสายลม.........................
|
2. เช่าเหมาเรือหางยาวเที่ยว : เป็นทางเลือกที่เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวซึ่งรักความเป็นส่วนตัว .....โดยปกติ.....คุณจะสามารถติดต่อเช่าเหมาเรือหางยาวได้บริเวณชายหาดเกือบทุกๆ แห่งรอบเกาะเต่า(หากคุณเดินหาเจ้าของเรือไม่เจอ แนะนำว่าให้ลองติดต่อสอบถามกับพนักงานต้อนรับของโรงแรม/รีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ที่หาดนั้นๆ แทนครับ) หากเป็นเรือหางยาวลำเล็กจะสามารถจุผู้โดยสารได้ราว 8 – 10 คน/ลำ และหากเป็นเรือหางยาวลำใหญ่จะสามารถจุผู้โดยสารได้ราว 12 – 15 คน/ลำ ค่าใช้จ่ายในการเช่าเหมาเรือตกอยู่ที่ 2,000 – 3,500 บาท/ลำ/วัน ไม่รวมค่าอาหาร , ค่าเช่าหน้ากากดำน้ำ และค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะนางยวน.....อย่างไรก็ตาม.....การเช่าเหมาเรือหางยาวเที่ยวก็มีข้อด้อยที่สำคัญ คือ เรือหางยาวจะไม่สามารถสู้กับคลื่นลมได้ดีสักเท่าไหร่นักเมื่อเปรียบเทียบกับเรือทัวร์ (.....บางครั้งหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสคลื่นลมระหว่างวัน.....นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่บนเรือทัวร์จะปลอดภัยกว่านักท่องเที่ยวซึ่งอยู่บนเรือหางยาวอย่างแน่นอนครับ)
|
....................ภาพถ่ายก่อนสายฝนจะโปรยปราย....................
|
3. ใช้บริการรถโดยสาร หรือ “แท็กซี่เกาะเต่า” : นักท่องเที่ยวซึ่งอยากจะเดินทางไปชื่นชมความสวยงามของชายหาดต่างๆ รอบๆ เกาะเต่าแต่ไม่ได้อยากดำน้ำดูปะการังอาจเลือกใช้วิธีเช่าเหมารถโดยสารหรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นนิยมเรียกกันว่า “แท็กซี่เกาะเต่า” ก็ได้.....ทั้งนี้.....แท็กซี่เกาะเต่าไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนรถแท็กซี่ทั่วๆ ไป หากแต่เป็นรถกระบะซึ่งดัดแปลงติดม้านั่งยาวเข้าไปทางตอนท้าย.....ส่วนใหญ่จะไม่มีหลังคาบังแดด ลม ฝน.....คิดค่าใช้จ่ายตามระยะทางและจำนวนผู้โดยสาร เริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 200 บาท/เที่ยว โดยปกติแท็กซี่เกาะเต่าจะจอดอยู่เฉพาะที่ “ท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาด” หรือ “หาดทรายรี” กรณีนักท่องเที่ยวพักอยู่ ณ ชายหาดแห่งอื่นๆ อาจต้องไปยืนโบกรถอยู่ริมถนน หรือต้องให้พนักงานต้อนรับของทางโรงแรมติดต่อหาแท็กซี่ให้ (หรืออาจเลือกขอเบอร์โทรศัพท์มือถือจากเจ้าของแท็กซี่เก็บไว้ล่วงหน้าตั้งแต่คุณลงมาจากเรือเฟอรี่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาดก็ได้.....แนะนำให้ขอเบอร์เก็บไว้หลายๆ เจ้า เพราะเจ้าของแท็กซี่บางคนจะเรียกให้มารับได้เฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น)
|
ถ้าคุณเห็นต้นมะพร้าวแปลก ๆ แบบนี้ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่า.....ที่นี่.....หาดทรายรี เกาะเต่า
|
|
...............หนึ่งชีวิตที่ยังหยัดยืน.....กับ.....ลวดลายบนพื้นทรายหน้าชายหาด...............
|
4. เช่ารถจักรยานยนต์ หรือ ATV (All Terrain Vehicle): ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการสร้างถนนคอนกรีตเชื่อมต่อจากท่าเทียบเรือฯ ไปยังชายหาดสำคัญๆ หลายๆ แห่งบนเกาะเต่าแล้วก็ตาม แต่ถนนบางสายก็ยังคงมีสภาพเป็นทางดินลูกรังอัดที่ขรุขระและสูงชัน หากคุณต้องการจะเช่ารถจักรยานยนต์หรือ ATV เพื่อขับขี่ไปชมทิวทัศน์รอบๆ เกาะเต่าอย่างปลอดภัยก็ควรจะใส่ใจกับคำแนะนำเบื้องต้นต่อไปนี้ให้ดี
- กรณีที่คุณไม่สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างคล่องแคล่วแนะนำให้เลือกเช่า ATV จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า.....ตามปกติ.....ค่าเช่าจะอยู่ราว 500 – 600 บาท/คัน/วัน สามารถรองรับผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน/คัน (กรณีผู้ขับขี่ตัวใหญ่อาจนั่งได้แค่คนเดียวครับ) และหากคุณยังไม่เคยขับขี่ ATV มาก่อนก็สามารถขอให้เจ้าของรถเช่าช่วยสอนวิธีขับให้ได้ไม่ยาก (การฝึกหัดขับ ATV นั้นง่ายกว่าการหัดขี่รถจักรยานยนต์มาก.....อย่างไรก็ตาม.....คุณควรทดลองติดเครื่องและหัดขับ ATV ให้คล่องแคล่วเสียก่อนที่จะนำรถออกจากบริเวณร้านมาวิ่งจริงๆ ครับ)
|
...................................One..........&..........Two...................................
|
- กรณีที่คุณมั่นใจว่าตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เก่งในระดับใกล้เคียงเทพและการเช่า ATV มันหน่อมแน้มเกินไป แนะนำให้เลือกเช่ารถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งยางล้อสำหรับการวิ่งบนทางวิบาก (สังเกตได้ง่ายๆ ว่าดอกยางจะมีขนาดใหญ่และขรุขระ ไม่ใช่ดอกยางโล้นๆ เรียบๆ ครับ) การเช่ารถจักรยานยนต์ซึ่งติดตั้งยางล้อแบบนี้ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ แตกต่างไปจากการเช่าจักรยานยนต์ที่มีดอกยางล้อเรียบๆ ตามปกติเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นหากคุณไม่มั่นใจจริงๆ ว่าจะสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เก่งในระดับเหนือเทพและลุยไปได้อย่างปลอดภัยในทุกๆ พื้นที่ล่ะก็ อย่าลืม!!ตรวจสอบลักษณะของยางรถจักรยานยนต์ก่อนตัดสินใจเช่าทุกครั้ง.....โดยปกติ.....ค่าเช่ารถจักรยานยนต์บนเกาะเต่าจะอยู่ที่ 200 – 250 บาท/คัน/วัน- ถึงแม้ว่าโรงแรม/รีสอร์ทเกือบทุกแห่งจะมีรถจักรยานยนต์ให้เช่า แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถจักรยานยนต์ซึ่งติดตั้งยางล้อแบบเรียบๆ ธรรมดาๆ สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งยางล้อเพื่อการวิ่งบนทางวิบากหรือ ATV นั้นจะหาเช่าได้ง่ายกว่าบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาด , หาดทรายรี หรืออ่าวโฉลกบ้านเก่า
|
..............................หาดทรายรี ในแสงสนธยา..............................
|
|
...............ครอบครัวของฉัน ใต้ดวงตะวันที่กำลังลาลับ...............
|
- ไม่ว่าคุณจะเลือกเช่ารถจักรยานยนต์ หรือ ATV คุณจะต้องตรวจสภาพความเรียบร้อยของรถ พร้อมทั้งลงบันทึกรอยตำหนิต่างๆ ไว้ในใบสัญญาเช่าอย่างละเอียด อย่าหลงเชื่อคำพูดที่ว่า “ไม่เป็นไร.....รอยนี้พี่จำได้” แล้วละเลยการบันทึกรอยตำหนิลงในเอกสารเด็ดขาด มิฉะนั้นคุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับความเสียหายซึ่งคุณไม่ได้ก่อขึ้นในเวลาที่นำรถมาคืน
- หากคุณไม่มั่นใจว่าจะสามารถขับขี่ยานพาหนะผ่านเส้นทางบางช่วงไปได้อย่างปลอดภัย ก็อย่าฝืนขับไปตามเส้นทางดังกล่าว เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนต่างๆ ของยานพาหนะอาจทำให้คุณต้องจ่ายค่าซ่อมแซมสูงกว่าค่าเช่าหลายเท่า.....แถมคุณยังอาจได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วย
.....เอาล่ะ.....หลังจากได้ทราบถึงทางเลือกในการเดินทางบนเกาะเต่ากันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จะพาทุกๆ คนไปสำรวจรอบๆ เกาะเต่ากันล่ะนะครับ (คุณสามารถหยิบแผนที่เกาะเต่าซึ่งมีแจกฟรีได้ที่หน้าร้าน 7 – 11 หรืออาจหยิบได้ที่เคาน์เตอร์แผนกต้อนรับของโรงแรม/รีสอร์ทเกือบทุกแห่งบนเกาะเต่าครับ)
|
.......โคมประดับ..........จับมาเพื่อกิน..........สินค้า..........หน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่ง.......
|
เขาว่ากันว่า “หาดทรายรี” คือ ชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะเต่า ?
.....จากท่าเทียบเรืออ่าวแม่หาด.....หากคุณนั่งรถขึ้นไปตามถนนคอนกรีตทางทิศเหนือเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาที คุณก็จะได้พบกับ “หาดทรายรี” หาดทรายสีขาวซึ่งมีความยาวตลอดแนวชายหาดประมาณ 1.7 กม. หาดทรายรีถือเป็นชายหาดที่มีความยาวมากที่สุดของเกาะเต่า ในอดีต.....ชายหาดแห่งนี้เคยมีเนื้อทรายเป็นสีขาวบริสุทธิ์เนื้อนวลเนียนนุ่มเท้าราวกับแป้งฝุ่น น้ำทะเลเป็นสีเขียวอมฟ้าใส สวยงามจนนักท่องเที่ยวหลายๆ คนพร้อมใจกันยกตำแหน่งชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะเต่าให้.....แต่ภายหลังจากที่มีการก่อสร้างร้านอาหาร , อาคารพาณิชย์ และรีสอร์ท หลายๆ แห่งริมชายหาด ก็ได้ทำให้ดินทรายจากการก่อสร้างบางส่วนปะปนลงไปกับเนื้อทรายดั้งเดิมของหาดทรายรี ประกอบกับน้ำเสียบางส่วนก็ถูกปล่อยลงสู่ท้องทะเลทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการบำบัดอย่างถูกต้อง.....ทำให้ในปัจจุบัน.....หาดทรายแห่งนี้มีสีหม่นหมองผิดไปจากเมื่อกาลก่อน และทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเองก็ไม่แน่ใจว่า.....หาดทรายรีจะยังคงครองตำแหน่งหาดทรายที่สวยที่สุดของเกาะเต่าอยู่เช่นเดิมได้หรือไม่ในทุกวันนี้ ? (จากการสำรวจของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2555 พวกเราคิดว่า “หาดเทียนออก” น่าจะเป็นชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะเต่า.....ไม่ใช่หาดทรายรีอีกต่อไปแล้วครับ)
|
.........................ราตรี ณ หาดทรายรี เกาะเต่า.........................
|
|
.....บาร์.........โฆษณาบนป้าย.........ชายผู้ขายอาหาร.........ร้านแห่งความมัวเมา.....
|
หาดทรายรีมีเอกลักษณ์บางอย่างที่ไม่มีชายหาดแห่งอื่นๆ บนเกาะเต่าเหมือน นั่นก็คือ ต้นมะพร้าวริมชายทะเลซึ่งมีลำต้นยื่นยาวออกไปขนานกับแนวราบของพื้นทราย แต่ส่วนยอดกลับหักงอตั้งตรงชูขึ้นสู่ท้องฟ้าดูคล้ายกับตะขอเบ็ดตกปลา มีการนำเอาไม้ค้ำยันมารองใต้ลำต้นและพันลวดหนามเป็นวงไว้โดยรอบเพื่อป้องกันการหักโค่น (.....เดิมที.....ไม่เคยมีการนำไม้มาค้ำยันลำต้น และไม่เคยมีการนำลวดหนามมาพันไว้โดยรอบต้นมะพร้าวดังกล่าว แต่เมื่อต้นมะพร้าวเหล่านี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชาวเกาะเต่าบางคนเกรงว่าสัญลักษณ์ของหาดทรายรีเหล่านี้จะหักโค่นลง จึงได้นำเอาไม้มารองค้ำยันใต้ลำต้นพร้อมทั้งพันลวดหนามไว้โดยรอบครับ) ต้นมะพร้าวเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่คลื่นทะเลค่อยๆ กัดเซาะพื้นทรายใต้ฐานรากจนทำให้ต้นมะพร้าวค่อยๆ โน้มเอียงลงทีละน้อยๆ และในขณะที่ลำต้นของมันเอียงลง ส่วนปลายยอดก็ยังคงพยายามเจริญเติบโตขึ้นในแนวดิ่งเพื่อรับแสงอาทิตย์.....จนสุดท้าย.....ต้นมะพร้าวก็มีลักษณะเป็นดังที่พวกเราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
เนื่องจากหาดทรายรีเป็นชายหาดซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะเต่า (แต่อยู่ทางทิศเหนือของอ่าวแม่หาดครับ).....ในยามเย็น.....คุณจึงสามารถมานั่งด้านหน้าหาดทรายแห่งนี้แล้วรอชมบรรยากาศขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยลับลงสู่ผิวน้ำได้.....และเมื่อแสงสุริยาพร่าเลือนไป.....คุณก็จะได้เห็นแสงวิบวับจากดวงไฟตามร้านอาหาร.....ผับ.....บาร์ ค่อยๆ สว่างไสวฉายส่องขึ้นแทน.....ณ เวลานี้.....วิถีชีวิตยามราตรีบนชายหาดที่คึกคักที่สุดบนเกาะเต่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
|
แหลม จ.ป.ร. สถานที่จำหลักพระปรมาภิไธยย่อ
ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
|
|
...................................เย็นย่ำ ค่ำแย้มเยือน...................................
|
โรแมนติกในยามเย็น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบมานั่งทำซึ้งดูพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ขอบอกเลยว่ารอบๆ เกาะเต่ายังมีทำเลสวยๆ ซึ่งเหมาะแก่การมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกอีกหลายแห่ง.....แต่จุดชมพระอาทิตย์ตกที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำว่าคุณน่าจะพยายามหาโอกาสแวะไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาสได้มาพักค้างแรมบนเกาะเต่า ก็คือ “แหลม จ.ป.ร.” และ “แหลมยายณี”
“แหลม จ.ป.ร.” เป็นแหลมหินซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง “อ่าวแม่หาด” และ “หาดทรายรี”.....ในราวปี พ.ศ. 2442 ก่อนที่จะมีผู้คนอพยพย้ายถิ่นมาตั้งรกรากบนเกาะเต่า.....พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้เคยเสด็จฯ มาประพาสยังเกาะแห่งนี้ .....ครั้งนั้น.....พระองค์ได้ทรงจำหลักพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ลงบนศิลาใหญ่ก้อนหนึ่ง ต่อมาภายหลังชาวบ้านส่วนหนึ่งจากเกาะพะงันก็ได้ล่องเรืออพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่บนเกาะเต่าและได้เรียกแหลมหินอันเป็นที่ตั้งของศิลาใหญ่ก้อนดังกล่าวนี้ว่า “แหลม จ.ป.ร.”
.....ปัจจุบัน.....นอกจากแหลม จ.ป.ร.จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแล้ว แหลมหินแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเกาะเต่าซึ่งมีผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้ขอพร “พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” อยู่อย่างไม่ขาดสาย
|
....................จาก แหลมยายณี มองเห็น เกาะนางยวน อยู่ใกล้ ๆ....................
|
|
....................รอชมดวงอาทิตย์ตกยามเย็น ณ ดุสิตบัญชา รีสอร์ท....................
|
หากคุณนั่งรถถัดจากแหลม จ.ป.ร. เลยผ่านหาดทรายรีขึ้นไปจนสุดถนนคอนกรีตฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า คุณจะได้พบกับจุดชมทิวทัศน์ “แหลมยายณี” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณร้านอาหารริมทะเลภายใน “ดุสิต บัญชา รีสอร์ท” ถึงแม้ว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ของเอกชนแต่เขาก็ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งต้องการจะเข้ามาชมทิวทัศน์ด้วย (ถึงคุณจะไม่ได้ใช้บริการใดๆ ของทางรีสอร์ทเลยก็สามารถแวะเข้าไปชมทิวทัศน์ได้ครับ).....ณ จุดชมทิวทัศน์แหลมยายณีแห่งนี้.....คุณจะสามารถมองเห็น “เกาะนางยวน” ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าได้มานั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกับคนรักหรือครอบครัวในบรรยากาศเช่นนี้ด้วยล่ะก็.....รับรองว่าโรแมนติกอย่าบอกใครเลย.....
|