ภูโคลน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
|
“ภูโคลน” นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงขจรขจายไกลไปถึงต่างแดน เนื่องจากภูโคลนแห่งนี้ คือ แหล่งโคลนธรรมชาติบำบัดซึ่งได้รับการตรวจสอบจากสถาบันวิจัย Thermalium Luxeuil Laboratorie ประเทศฝรั่งเศสแล้วพบว่า น้ำแร่และโคลนที่เก็บตัวอย่างไปจาก “ภูโคลน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน” นั้น มีปริมาณแร่ธาตุซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ใกล้เคียงกับปริมาณแร่ธาตุของ “โคลนจากทะเลสาบมรณะ (Dead Sea Mud)” ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศจอร์แดน – อิสราเอล และ “โคลนลาวาภูเขาไฟ (Volcano Lava Mud)” ในประเทศโรมาเนียเลยทีเดียว
|
ภูโคลน : แหล่งน้ำแร่.....และ.....โคลนบำบัดเพื่อสุขภาพชื่อดังของประเทศไทย
|
|
ถ้ามาเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน แล้วอยากเข้า Spa แนะนำว่าต้องมา ภูโคลน คันทรีคลับ
|
กว่าจะมาเป็น “ภูโคลน”
ก่อนที่ “ภูโคลน” จะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศนั้น สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “โป่งเดือดแม่สะงา” และถูกค้นพบเป็นครั้งแรกจากการที่มีผู้สังเกตเห็นสายน้ำร้อนผุดขึ้นมากลางทุ่งนา สายน้ำร้อนดังกล่าวนี้ได้ไหลไปรวมกับลำธารเล็กๆ กลายเป็นธารน้ำอุ่นขนาดย่อม ผู้คนในท้องถิ่นซึ่งเจ็บป่วยไม่สบายมักจะนิยมมาแช่ธารน้ำอุ่นใกล้ๆ กับโป่งเดือดแม่สะงาเพื่อบำบัดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ต่อมาในราวปี พ.ศ. 2538 กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาชาวฝรั่งเศสซึ่งเดินทางมายัง จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีโอกาสมาเยือนโป่งเดือดแม่สะงา หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2539 จึงได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำแร่และโคลนธรรมชาติจากโป่งเดือดส่งไปวิจัยแร่ธาตุที่ห้องทดลองของสถาบันวิจัย Thermalium Luxeuil Laboratorie ในประเทศฝรั่งเศส
|
....................ขั้นตอนก่อนจะเริ่มต้นพอกผิวหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ....................
|
ภายหลังจากที่ใช้ระยะเวลาในการศึกษาวิจัยโดยละเอียดถึง 4 ปี ก็ได้มีการแจ้งผลวิจัยดังกล่าวกลับมายังประเทศไทยในปี พ.ศ. 2542 ว่า ตัวอย่างน้ำแร่และโคลนธรรมชาติจากแหล่งโป่งเดือดแม่สะงานั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์เทียบเคียงได้กับโคลนธรรมชาติจากทะเลสาบมรณะ (Dead Sea Mud) ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศจอร์แดน – อิสราเอล และโคลนลาวาภูเขาไฟ (Volcano Lava Mud) ในประเทศโรมาเนียอันเป็นแหล่งโคลนบำบัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก..........การสำรวจโป่งเดือดแม่สะงาโดยเทคโนโลยีระบบดาวเทียม และการขุดเจาะเพื่อนำเอาโคลนรวมถึงน้ำแร่ธรรมชาติมาใช้ประโยชน์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ในปี พ.ศ. 2543 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด “ภูโคลน คันทรีคลับ” ขึ้น เพื่อพัฒนาที่ดินในบริเวณโป่งเดือดแม่สะงาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน.....นับตั้งแต่บัดนั้น.....ชื่อ “ภูโคลน” ก็กลายเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวผู้รักสุขภาพ อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้บรรจุ “ภูโคลน คันทรีคลับ” เข้าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามโครงการ Unseen in Thailand และ Spa Paradise ด้วย
|
พอกหน้าเสร็จแล้วก็ห้ามยิ้ม....ห้ามย่นคิ้ว....ห้ามหลับตา มิฉะนั้นอาจเกิดรอยเท้ากาได้
|
ลักษณะของโคลนธรรมชาติจากแหล่ง “ภูโคลน”
.....ตามธรรมดา.....ก่อนที่คนเราจะนำเอาอะไรมาทา มาปะตามหน้าตามตัวก็มักจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่า สิ่งที่จะนำมาทา – มาปะบนร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่ดี.....เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ หรือเป็นสิ่งที่ปลอดภัยแค่ไหน ?.....จริงไหมครับ ? (ยกตัวอย่าง เช่น ตามปกติคงไม่มีใครนำเอายาฆ่าแมลงที่อุดมไปด้วยสารพิษมาลูบหน้าปะจมูกเล่นเป็นแน่) เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการเพื่อสุขภาพใดๆ ของ “ภูโคลน คันทรีคลับ” เราก็ควรจะมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์หลักของภูโคลนซึ่งก็คือ “โคลนธรรมชาติ” กันเสียก่อน
โคลนธรรมชาติจากแหล่งภูโคลนนั้นเป็นโคลนเดือดสีเทาดำซึ่งผุดขึ้นมาพร้อมๆ กับสายน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดินที่สะอาด มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 60 – 140 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังมีลักษณะเด่นคือไม่มีกลิ่นกำมะถัน เมื่อเรานำเอาโคลนเหล่านี้ไปละลายด้วยน้ำหรือของเหลวมันจะปลดปล่อยแร่ธาตุหลากหลายชนิดซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวพรรณออกมา เช่น Calcium ช่วยปรับความสมดุลของผิวไม่ให้เกิดความแห้งกร้าน , Bromine สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว , Magnesium ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพไป , ฯลฯ นักวิทยาศาสตร์เรียกโคลนชนิดนี้ว่า Bentonite Clay หรือ Montmorillonite Clay
|
ตัวอย่าง Bentonite/Montmorillonite Clay จากแหล่ง ภูโคลน
|
ก่อนที่จะมีการนำเอา Bentonite Clay หรือ Montmorillonite Clay ไปพอกตามใบหน้าและร่างกายของนักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการ ทาง “ภูโคลน คันทรีคลับ” จะต้องนำเอาโคลนธรรมชาติซึ่งสูบขึ้นมาจากบ่อโคลนเดือดไปผ่านกระบวนการกรองเอาตะกอนแขวนลอยหยาบออก หลังจากนั้นจึงนำเอาโคลนที่ผ่านกระบวนการกรองแล้วมาเข้าเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ ผสมสมุนไพรเพื่อกลบไอดินและแต่งกลิ่นหอม (ตัวอย่างสมุนไพรซึ่งใช้ผสมกับโคลนที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว เช่น ตะไคร้หอม , แตงกวา , ขมิ้น , มะนาว เป็นต้น) จนกลายเป็น “โคลนสุขภาพ” สูตรเฉพาะของ “ภูโคลน” ที่ยากจะหาใครเหมือน
|
...............ภูโคลน คันทรีคลับ..........................สถานบำบัดความชรา...............
|
นอกเหนือไปจาก “โคลนสุขภาพ” แล้ว “ภูโคลน คันทรีคลับ” ยังได้มีการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชนิดอื่นๆ ขึ้นมาจาก Bentonite Clay และน้ำแร่ธรรมชาติอีกหลายชนิด อาทิเช่น สเปรย์น้ำแร่ธรรมชาติบำรุงผิว ภูโคลน 100% , ครีมโลชั่นน้ำแร่บำรุงผิวกาย ภูโคลน , โคลนผงพอกหน้า ภูโคลน , โฟมล้างหน้า ภูโคลน เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้รับรางวัล รวมทั้งเครื่องหมายรับรองคุณภาพและรับรองมาตรฐานการผลิตจากหลากหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น OTOP Product Champion ประเภทสมุนไพรไม่ใช่อาหารและยา ระดับ 5 ดาว พ.ศ. 2547 – 2550 , มอก. 152 – 2539 , ประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพแร่ธาตุและมาตรฐานจากสถาบันวิจัย Thermalium Luxeuil Laboratorie ประเทศฝรั่งเศส ,ฯลฯ..........ในกรณีที่คุณเลือกใช้บริการด้านสุขภาพบางอย่างจาก “ภูโคลน คันทรีคลับ” คุณอาจจะมีโอกาสได้ทดลองใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ฟรีๆ ด้วย
|
..............................ไออุ่นกรุ่นอยู่ในบ่อโคลน..............................
|
“ภูโคลน คันทรีคลับ” มีบริการอะไรบ้าง ?
นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมายัง “ภูโคลน” ส่วนใหญ่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะมานั่งชมนกชมไม้ หากแต่มุ่งหมายเดินทางมาเพื่อใช้บริการดูแลสุขภาพ..........ซึ่งข้อมูลบริการด้านต่างๆ ของ “ภูโคลน คันทรีคลับ” นั้นมีอยู่ดังตารางทางด้านล่าง
บริการของ “ภูโคลน คันทรีคลับ” |
ราคา/ท่าน |
ประมาณระยะเวลาที่ใช้ให้บริการ |
1. แช่เท้าในบ่อน้ำแร่ร้อนกลางแจ้ง |
20 บาท |
15 นาที |
2. แช่ตัวในสระน้ำแร่ร้อนกลางแจ้ง |
60 บาท |
15 นาที |
3. พอกผิวหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ |
60 บาท |
20 นาที |
4. ขัดและนวดผิวหน้า
พร้อมพอกผิวหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ |
300 บาท |
30 นาที |
5. นวดแผนไทย (นวดตัว) |
200 บาท |
1 ชั่วโมง |
6. นวดแผนไทย (นวดฝ่าเท้า) |
200 บาท |
1 ชั่วโมง |
7. นวดแผนไทย (นวดตัวและฝ่าเท้า) |
400 บาท |
2 ชั่วโมง |
8. นวดน้ำมัน |
400 บาท |
1 ชั่วโมง |
9. กอล์ฟ (ค่าลูกกอล์ฟถาดละ)
* ค่าเช่าอุปกรณ์เพิ่มเติมท่านละ 60 บาท |
40 บาท |
- |
Package ภูโคลน โคลนบำบัดแบบไทย 1 |
พอกผิวหน้าและผิวกายด้วยโคลนธรรมชาติ +
ขัดผิวด้วยมะขาม + แช่น้ำแร่ |
700 บาท |
1 ชั่วโมง 30 นาที |
Package ภูโคลน โคลนบำบัดแบบไทย 2 |
พอกผิวหน้าและผิวกายด้วยโคลนธรรมชาติ +
ขัดผิวด้วยมะขาม + แช่น้ำแร่ +
ขัดและนวดผิวหน้าด้วยสมุนไพรและน้ำผึ้ง |
900 บาท |
2 ชั่วโมง |
|
เชิญตามพวกเรามาใช้บริการโคลนบำบัดคุณภาพดีที่ ภูโคลน คันทรีคลับ สิคะ
|
ภายหลังจากที่เก็บข้อมูลและภาพถ่ายต่างๆ ภายใน “ภูโคลน คันทรีคลับ” เสร็จเรียบร้อยแล้วทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ก็มีโอกาสได้ทดลองพอกผิวหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ และแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งเหมือนๆ กับคนอื่นเขาบ้าง ต้องยอมรับว่าหลังจากใช้บริการดูแลสุขภาพทั้ง 2 อย่างนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่าเท้าและใบหน้าเบาสบาย อีกทั้งผิวหน้ายังกระจ่างใสขึ้นทันตาเห็นจริงๆ (แต่หลังจากที่พอกหน้าเสร็จ.....ผ่านไปอีก 2 – 3 วัน หน้าก็กลับหมองเหมือนเดิมครับ) ..........หากคุณมีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนล่ะก็ “ภูโคลน” นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำว่า..........คุณน่าจะลองแวะมาดูสักครั้ง
โทรศัพท์ติดต่อภูโคลน คันทรีคลับ : (053) 282 – 579
การเดินทางสู่ภูโคลน :
รถยนต์ส่วนบุคคล จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 ขับรถมุ่งหน้าไปทาง อ.ปางมะผ้า ประมาณ 10 กม.จะพบทางแยกซ้ายมือ (มีป้ายบอกทางไป “ภูโคลน คันทรีคลับ” ปักอยู่บริเวณแยกดังกล่าวครับ) ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับรถต่อไปตามถนนสายบ้านกุงไม้สัก – บ้านห้วยขานอีกประมาณ 4 กม.ทางเข้า “ภูโคลน” จะอยู่ด้านขวามือ
รถประจำทาง ไม่มีรถประจำทาง แต่นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเหมารถสองแถวได้ที่ “ตลาดสายหยุด” ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน (ราคาตามแต่ตกลงกันครับ)
ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม : สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ขอขอบคุณ : ข้อมูลอ้างอิงบางส่วนจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด “ภูโคลน คันทรีคลับ”
หมายเหตุ : ข้อมูลบางอย่างของ “ภูโคลน คันทรีคลับ” อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ในปัจจุบัน
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง : ที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท ในย่านตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน
(กรุณาคลิ๊ก “ ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว” เพื่อชมภาพถ่ายและข้อมูลของสถานที่แต่ละแห่งโดยละเอียด)
|
อ.เมือง |
พระธาตุดอยกองมู , วัดจองคำ - วัดจองกลาง , วัดหัวเวียง ,
ถ้ำปลา , น้ำตกผาเสื่อ , บ่อน้ำร้อนผาบ่อง , ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน ,
บ้านห้วยเสือเฒ่า , หมู่บ้านจีนยูนนาน - บ้านรักไทย ,
โครงการพระราชดำริปางตอง-2-ปางอุ๋ง ,
โครงการพระราชดำริปางตอง-4-พระตำหนักปางตอง |
อ.ปาย |
วัดน้ำฮู , กองแลน , บ้านสันติชล , สะพานประวัติศาสตร์ปาย ,
ถนนคนเดินปาย , น้ำตกหมอแปง , โป่งน้ำร้อนท่าปาย |
อ.ขุนยวม |
ทุ่งดอกบัวตอง-ดอยแม่อูคอ , ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ,
น้ำตกแม่สุรินทร์ |
อ.ปางมะผ้า |
ถ้ำลอด |
อ.แม่ลาน้อย |
ถ้ำแก้วโกมล |
|