ถ้ำพระยานคร หาดแหลมศาลา กิ่งอำเภอสามร้อยยอด
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ดูภาพด้านล่าง)
ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งเช่น ทุ่งสามร้อยยอด ถ้ำแก้ว และที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้คือ “ถ้ำพระยานคร” ตั้งอยู่ที่หาดแหลมศาลาของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ซึ่งนอกจากจะมีความน่าสนใจในแง่มุมของความเป็นธรรมชาติแล้ว “ถ้ำพระยานคร” นั้นยังมีความน่าสนใจในเชิงของประวัติศาสตร์ของไทยอีกด้วย แต่การจะไปถึงถ้ำพระยานครนั้นก็ไม่ได้ง่ายเหมือนเดินบนถนนราบเรียบ แต่ก็ไม่ลำบากเหมือนปีนยอดเขาเอเวอร์เรส แต่ก็ต้องใช้ความพยายามและความอึดพอสมควร
|
ระหว่างทางเส้นทางสู๋ท่าเรือ
|
ทีมงานของท่องเที่ยวดอทคอมเดินทางมาถึงบ้านบางปู ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพาพวกเราไปยังถ้ำพระยานคร บริเวณนี้จะมีแนวสนปะดิพัทธ์เรียงตัวเป็นแถวยาวให้ร่มเงาเหมาะแก่การนำรถมาจอดหลบแดด มีร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่มต่าง ๆ ให้บริการ และเมื่อเดินไปถึงด้านหน้าชายหาดท่านจะเห็นเรือหางยาวจอดรับ – ส่ง นักท่องเที่ยวซึ่งราคาค่าบริการทางอุทยานฯได้กำหนดไว้และทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ทราบ (ไป-กลับ หาดแหลมศาลา ถ้ำพระยานคร บ้านบางปู 300 บาท แต่ถ้าพักค้างคืน 500 บาท) เมื่อชำระค่าโดยสารแล้วท่านจะได้รับบัตร (ทำจากพลาสติก) บอกเบอร์เรือ จากนั้นไปรอเรียกขึ้นเรือ (ลำนึงนั่งได้ประมาณ 8 คน) หากน้ำลดจะต้องเดินเป็นระยะทางยาวท่ามกลางแดดเปรี้ยงเพื่อไปขึ้นเรือ (จึงควรมีร่ม หมวก ปลอกแขน เสื้อแขนยาวเตรียมป้องกันไว้) คนขับเรือจะพาทุกท่านไปส่งยังหาดแหลมศาลา แล้วก็กลับไปรับนักท่องเที่ยวชุดใหม่มาส่ง กรณีต้องการกลับก็มายืนรอบริเวณหาดแหลมศาลาที่เดิม รอขึ้นเรือลำเดิม แต่บางครั้งก็จะฝาก ๆ ไปกับเรือลำอื่นก็มี (แต่ทุกท่านวางใจได้ว่าได้กลับฝั่งแน่นอน) ซึ่งหากท่านเลือกที่จะแวะไปเที่ยวชมเกาะนมสาว ก็สามารถชำระค่าบริการเพิ่ม (อาจต้องเหมาลำ)ได้
|
บรรยากาศบริเวณ "หาดแหลมศาลา" หน้าทางขึ้น "ถ้ำพระยานคร" |
|
เส้นทางเดินเรือ หาดแหลมศาลา และ หาดหินรอบ ๆ เกาะนมสาว |
|
"บ่อพระยานคร" บ่อน้ำโบราณบริเวณหาดแหลมศาลา |
เมื่อทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราได้มายืนบนพื้นทรายของหาดแหลมศาลาแล้ว แวะหยุดชมความงามของหาดทรายขาว และสันทรายแหลมที่ยื่นลงสู่ทะเล (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหาดแหลมศาลา) จากนั้นจึงเดินเข้าด้านในที่มีร้านอาหารสวัสดิการ เข้าห้องน้ำ ห้องท่านให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมุ่งสู่ “ถ้ำพระยานคร”
เส้นทางสู่ “ถ้ำพระยานคร” นักท่องเที่ยวจะต้องเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติที่มีความสูงชันไม่มากนัก (่ระยะทางคร่าว ๆ ประมาณ 500 เมตร) ไปเรื่อย ๆ จนมาถึงปากทางเข้าถ้ำ จะพบเส้นทางเดินลงเชื่อมกับตัวถ้ำที่อยู่ด้านล่าง ภายในถ้ำเป็นโถงกว้างใหญ่ การระบายอากาศดี ไม่อึดอัด จากป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในถ้ำพระยานคร ท่านจะได้ทราบถึงประวัติดความเป็นมาของถ้ำพระยานคร ในอดีต ว่าชื่อของถ้ำพระยานครนั้นได้มาอย่างไร (ผู้คนพบคือพระยานครศรีธรรมราช) ทราบถึงจุดน่าสนใจต่าง ๆ ภายในถ้ำพระยานครที่มีมากมายซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรา (www.thongteaw.com) จะพาทุกท่านไปแวะชมตามจุดต่าง ๆ ดังนี้
|
"หาดแหลมศาลา" ขึ้นเรือแล้วเดินต่อ.....เดี๋ยวเดียวก็มาถึง |
จุดแรกที่จะคอยต้อนรับทุกท่านอยู่เป็นหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายน้ำตกไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ดูสวยงามเหมือนกับยกน้ำตกมาไว้ที่ถ้ำพระยานครแห่งนี้ จุดแรกนี้ได้ชื่อว่า “น้ำตกแห้ง” หลังจากผ่านน้ำตกแห้งเข้ามาในส่วนที่เป็นต้นถ้ำเมื่อเงยหน้าขึ้นไปด้านบนจะเห็นโพรงถ้ำกว้างมีแนวหินพาดผ่านคล้ายเป็นสะพานชื่อว่า “สะพานมรณะ” เจ้าหน้าที่เล่าว่าชื่อสะพานมรณะได้มาเนื่องจากมีสัตว์ตกจากสะพานลงมาตายอยู่เสมอ
|
"ถ้ำพระยานคร" เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ |
|
แสงเงินสาดส่องผ่านช่องสู่ภายใน
มองเห็นพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 |
เมื่อข้ามผ่านจุดที่สาม “ทางสันจระเข้” ทุกท่านจะเข้าสู่โถงถ้ำกว้างใหญ่เพดานเกือบจะเปิดโล่ง และมองเห็น “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” โดดเด่นอยู่บนกลางเนินเขาตรงกลางถ้ำ องค์พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ลักษณะเป็นพระที่นั่งทรงจตุรมุข ใช้เป็นพลับพลาที่ประทับเมื่อเสด็จแปรพระราชฐาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)ได้เคยเสด็จประพาสที่ถ้ำพระยานครแห่งนี้เช่นกัน โดยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยไว้ที่ผนังถ้ำพระยานครแห่งนี้อีกด้วย
|
.........."พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ภายในถ้ำพระยานคร.......... |
|
หินรูปจระเข้ สะพานมรณะ และ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ (อีกครั้ง) |
จากนั้นภายในถ้ำพระยานครยังมีจุดที่น่าสนใจต่าง ๆ อยู่โดยรอบเนินเขาเช่น "หินรูปเจดีย์" เป็นหินงอกที่มีรูปร่างคล้ายกับเจดีย์หลายยอด โพรงถ้ำที่เป็น"ที่เก็บอัฐิของหลวงพ่อเงิน" "หินจรเข้" เป็นก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายจรเข้กำลังชูคอและลวดลายบนก้อนหินยังคล้ายกับหนังจรเข้เป็นที่น่าฉงนสนเท่ห์ของนักท่องเที่ยวที่ได้ไปชม และอีกจุดถ่ายภาพยอดฮิตของถ้ำพระยานครคือ “ซุ้มรอดคู่” เป็นต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่โน้มกิ่งก้านจนมาถึงพื้นทำให้เกิดช่องว่างสามารถก้มลอดได้ มีความเชื่อกันว่าคู่ใดได้มาลอดซุ้มต้นไม้นี้ความรักจะมั่นคงยืนยาวอยู่กันไปตลอดรอดฝั่ง ระหว่างที่ทางทีมงานยืนสังเกตอยู่นั้นเห็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคู่จดจ้องรอลอดซุ้มกัน จุดที่น่าสนใจแต่ละจุดนั้นก็หาได้ไม่ยากเพราะมีป้ายบอกชัดเจน หลังจากที่พักกันหายเหนื่อยชื่นชมกับความงามของถ้ำพระยานครและพระที่นั่งคูหาคฤหาสถ์แล้ว ขาลงจากถ้ำสายตาของทีมงานเราก็เหลือบไปเห็นบ่อน้ำที่อยู่ด้านข้างเส้นทาง คือ “บ่อพระนคร” ถูกขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยพระยานครศรีธรรมราชได้ขุดไว้สำหรับใช้ระหว่างที่หลบฝนอยู่ ณ ที่หาดแหลมศาลาแห่งนี้
|
ทางลงถ้ำพระยานคร.....ต้นซุ้มรอดคู่.....หินรูปเจดีย์.....ตามลำดับ |
การเดินทาง :
- จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 35 ไปถึงสี่แยกวังมะนาวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ไปเรื่อย ๆ ผ่านเพชรบุรี ชะอำ หัวหิน จนถึงสี่แยกปราณบุรี ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปประมาณ 30 กว่ากิโลเมตรจะไปสิ้นสุดที่บ้านบางปู (จุดจอดรถท่ามกลางทิวสน)
- จากฝั่งบ้านบางปูสามารถต่อเรือไปยังหาดแหลมศาลาที่ตั้งของถ้ำพระยานครได้ หรือจะเดินข้ามเขา (ทีมงานเราเห็นคนเดินตามแนวเขาเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ทดลองดู)
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง : ที่พักกิ่ง อ.สามร้อยยอด
|