ภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
(ดูภาพด้านล่าง)
หมายเหตุ : เนื้อหาและรูปภาพในหัวข้ออุทยานแห่งชาติภูสอยดาวนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 หน้า ท่านสามารถ click link ที่ด้านล่างสุดของหน้า เพื่อชมข้อมูลและรูปภาพในหน้าต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ
ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ : วันหนึ่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 ท่ามกลางเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ ๆ ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) กำลังยืนอยู่ ณ ที่ทำการของ “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (อช.ภูสอยดาว)” อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ชื่อเสียงของ “ทุ่งดอกหงอนนาค” ซึ่งบานสะพรั่งชูช่อสีม่วงอยู่ในไอหมอกสีขาวท่ามกลางป่าสนภูเขาใบสีเขียวเข้ม คือ สิ่งที่ทำให้พวกเราตัดสินใจเดินทางมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
|
ความชุ่มชื้นของผืนป่า "ภูสอยดาว" เป็นแหล่งก่อกำเนิดพืชพันธุ์มากมาย |
|
เห็ดหลากสีหลายชนิดยิ่งดูยิ่งพินิจ.....ยิ่งงดงาม |
“อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว” คือ สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน – ฤดูหนาวซึ่งหลาย ๆ คนรู้จักและเคยได้ยินชื่อ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเยือนภูสูงแห่งนี้ในช่วงฤดูฝนมากกว่าช่วงฤดูหนาวเนื่องจาก “ดอกหงอนนาค” จะบานเต็มท้องทุ่งบนลานสนภูสอยดาวเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น แม้ว่าหลาย ๆ ครั้งการขึ้นภูในช่วงฤดูดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเดินฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน แต่เส้นทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวก็ไม่ได้เฉอะแฉะ เลอะเทอะ หรือ เปรอะเปื้อนจนอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวซึ่งใช้ความระมัดระวังในการเดินขึ้นภูเป็นอย่างดีได้.....อย่างไรก็ตามทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมขอแนะนำว่านักท่องเที่ยวทุก ๆ คนซึ่งต้องการจะเดินทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวควรสวมใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าปีนเขาที่มีความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวเป็นอย่างดีเพื่อเป็นการป้องกัน – รักษาความปลอดภัยให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของตัวท่านเอง
|
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และ ช่วงต้น ๆ ของเส้นทางเดินขึ้นสู่ลานสน |
เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว หากนักท่องเที่ยวกลุ่มใดยังไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องนอนมาอย่างครบครันก็ควรจะติดต่อขอเช่าเครื่องนอนต่าง ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก ต่อจากนั้นจึงติดต่อว่าจ้าง “ลูกหาบ” เพื่อขนสัมภาระขึ้นสู่ยอดภูเป็นลำดับถัดมาโดยเสียค่าบริการขนสัมภาระกิโลกรัมละ 20 บาท (กรณีที่ติดต่อเช่าเครื่องนอนต่าง ๆ จากที่ทำการอุทยานฯ จะต้องนำเครื่องนอนดังกล่าวมารวมชั่งน้ำหนักเพื่อคิดค่าบริการขนสัมภาระขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวด้วยครับ) ซึ่งไม่ว่าคุณจะคิดว่าตนเองอึดเกินคนทนเกินแรดขนาดไหน ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมก็ยังคงแนะนำให้ใช้บริการลูกหาบขนสัมภาระอยู่ดี เพราะหากว่าเคราะห์ร้ายเกิดฝนตกหนักในขณะที่คุณกำลังปีนป่ายขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวล่ะก็.....อย่างน้อยก็จะไม่มีสัมภาระอันหนักอึ้งมาทำให้คุณรู้สึกซาบซึ้งถึงคำว่า “ซวยซ้ำ.....ซวยซ้อน” ได้ (ลูกหาบจะใช้กระสอบพลาสติกใบโตใส่สัมภาระของคุณไว้อย่างมิดชิดและมัดปากถุงอย่างแน่นหนาด้วยเชือกฟาง จึงไม่ต้องกังวลว่าสัมภาระของคุณจะเปียกฝนในขณะที่ถูกขนส่งขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว)
ภายหลังจากที่พวกเราชั่งน้ำหนักสัมภาระ – ติดต่อว่าจ้างลูกหาบและทำธุระส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จเรียบร้อยก็ได้ฤกษ์เดินขึ้นภูสอยดาวเวลาประมาณ 10.40 น. แม้ว่าในวันนี้พวกเราจะเริ่มต้นออกเดินขึ้นภูช้าไปบ้างแต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่อากาศไม่ร้อนอบอ้าว ท้องฟ้าร่มครึ้มไปด้วยมวลหมู่เมฆฝนที่ปลดปล่อยหยดน้ำเล็ก ๆ หล่นลงมากระทบกับกิ่งก้านใบสีเขียวสดของมวลหมู่แมกไม้ดัง.....เปาะแปะ.....เปาะแปะ.....ทิ้งช่วงจังหวะระยะเวลาห่าง ๆ.....พวกเราได้แต่เฝ้าภาวนาเงียบ ๆ อยู่ในใจว่าขออย่าให้ฝนตกหนักระหว่างทางเดินขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวเลย มิฉะนั้นการเดินทางในครั้งนี้คงยากลำบากยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้อยู่มากโข
บริเวณใกล้ ๆกันกับที่ทำการฯ ณ จุดเริ่มต้นเส้นทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว คุณจะสามารถมองเห็นน้ำตกขนาดย่อมซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาสูงแห่งนี้ นั่นก็คือ “น้ำตกภูสอยดาว”
|
..........ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าต้นน้ำ.......... |
|
ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ลานสนบางช่วงจะมองเห็น "น้ำตกภูสอยดาว"ไหลลดหลั่นเคียงคู่ไปเป็นเพื่อน
|
“น้ำตกภูสอยดาว” เป็นน้ำตกขนาดกลางซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น โดยรอบบริเวณน้ำตกแต่ละชั้นแวดล้อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ดูเขียวชอุ่มสวยงาม ตัวน้ำตกไหลลดหลั่นเคียงคู่ไปกับเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว หากนักท่องเที่ยวรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าออกอาการคล้ายกับว่าจะเป็นลมก็แวะพักเล่นน้ำล้างหน้าล้างตาคลายร้อนก่อนเดินทางต่อได้ไม่ลำบาก (แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแวะเล่นน้ำบริเวณน้ำตกภูสอยดาวเนื่องจากไม่ต้องการให้การเดินทางขึ้นสู่ยอดภูเกิดความล่าช้า) น้ำตกภูสอยดาวมีน้ำไหลตลอดปีแต่จะมีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน
|
สายหมอกสีขาว กับ ใบไม้สีเขียว |
|
ความงดงามของเส้นทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวช่วงระหว่าง "เนินเสือโคร่ง" - "เนินมรณะ" |
เส้นทางจากจุดเริ่มต้นจนถึงลานกางเต็นท์บนยอดภูสอยดาวเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.5 กม.ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเส้นทางเดินขึ้นสู่ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง” บนยอดภูกระดึง จ.เลย ระยะทางประมาณ 11 กม.แล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเส้นทางเดินขึ้นสู่ลานกางเต็นท์บนยอดภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์นั้นสั้นกว่ามาก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่กล่าวว่าการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์มีความยากลำบากมากกว่าการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูกระดึง จ.เลย ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจากเหตุผลที่ว่าระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวนั้นไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม หรือห้องสุขาใด ๆอยู่เลย ในขณะที่เส้นทางขึ้นสู่ยอดภูกระดึงจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม และห้องสุขาเปิดให้บริการอยู่เป็นระยะ ๆ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวซึ่งจะเดินทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์จึงต้องเตรียมอาหาร – เครื่องดื่มใส่เป้แบกติดตัวไปด้วย และควรทำธุระส่วนตัว (ปลดทุกข์หนัก – เบา) ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเริ่มออกเดินทาง
|
ผ่อนคลายความอ่อนล้า.....ท่ามกลางมวลหมู่เมฆารายรอบ |
|
ถ้าไม่ใช้บริการ "ลูกหาบ" ก็ไม่ทราบว่าจะรอดขึ้นไปถึงลานสนได้หรือไม่ ? |
ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมมีโอกาสได้พบกับนักท่องเที่ยวท่านหนึ่งซึ่งไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเริ่มต้นออกเดินทางขึ้นภูสอยดาว แถมนักท่องเที่ยวท่านนี้ยังไม่ได้พกพาอาหารใด ๆ มาในเป้สัมภาระที่สู้อุตส่าห์แบกติดตัวมาด้วย ทำให้เมื่อเดินทางใกล้จะถึงบริเวณ “เนินส่งญาติ” นักท่องเที่ยวท่านนี้ก็เริ่มออกอาการหมดแรงจนต้องขอแยกตัวกลับไปตั้งหลักบริเวณที่ทำการของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวก่อน สำหรับ “เนินส่งญาติ” นี้เป็นเนินแรกซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 1.6 กม.เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเล่าให้พวกเราฟังว่าสาเหตุที่เนินแห่งนี้ได้ชื่อว่า “เนินส่งญาติ” นั้นก็เนื่องมาจากนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เดินทางมาขึ้นภูสอยดาวกันเป็นครอบครัว เมื่อมาถึงเนินแห่งนี้จะมีบางคนที่ถอดใจยอมแพ้ต่อความยากลำบากของเส้นทางจนต้องถอยกลับในขณะที่บางคนในครอบครัวก็จะสามารถอดทนเดินทางต่อไปได้.....ทำให้ครอบครัวต้องแยกทางกันชั่วคราว.....กลายเป็นที่มาของชื่อ “เนินส่งญาติ” ในท้ายที่สุด
|
ไม่รู้จักชื่อ ได้แค่รู้จักหน้า.....แต่ความสวยของเธอ(ดอกไม้)ก็ยังคงตรึงตราอยู่ในหัวใจ |
|
1.....????..... 2.เอื้องนวลจันทร์ 3.เอนอ้า 4.เอื้องแซะภูกระดึง (ซึ่งมาอยู่บนภูสอยดาว !?) |
นอกจาก “เนินส่งญาติ” แล้วบนเส้นทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวคุณจะต้องตะเกียกตะกายผ่านเนินต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ได้แก่ เนินปราบเซียน , เนินป่าก่อ , เนินเสือโคร่ง , เนินมรณะ จนกระทั่งไปถึงลานสนภูสอยดาวด้านบนสุด ระหว่างเส้นทางคุณจะได้พบกับไม้ดอก ไม้ใบ ไม้ยืนต้น เห็ดราและพืชพรรณอีกมากมายหลากหลายชนิด หากเลือกเดินทางขึ้นภูสอยดาวตั้งแต่ช่วงเช้าหรือหากมีฝนตกในขณะที่กำลังเดินขึ้นภูคุณก็จะมีโอกาสได้เห็นสายหมอกสีขาวลอยละล่องพลิ้วไหวอยู่ในกระแสลมเย็นรอบ ๆ กายได้ไม่ยาก สำหรับเส้นทางขึ้นภูสอยดาวช่วงที่มีความงดงามมากที่สุดนั้นจะอยู่ระหว่าง “เนินเสือโคร่ง” – “เนินมรณะ” ซึ่งจะมีทางเดินเลาะเลียบริมหน้าผาระยะสั้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นแนวภูผาและสายหมอกเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน
|