ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ |
รับทันที ! โปรโมชั่น "ทัวร์ทะเลแหวก"
ราคาพิเศษ !
เฉพาะผู้ที่ติดต่อสำรองทัวร์และชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้าตามเงื่อนไข
ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ หรือ Line ID ในกรอบทางด้านล่าง ตั้งแต่วันนี้ – 30 เม.ย..2565 เท่านั้น !
|
นับตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2546 ภายหลังจากที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการ “Unseen Thailand” หรือ “มุมมองใหม่เมืองไทย” ขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ.....ชื่อเสียงของสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแห่งซึ่งไม่เคยคุ้นหูก็เริ่มกลับกลายเป็นโด่งดังราวกับพลุแตกภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่ทันข้ามปี อาทิเช่น ดอยม่อนจอง จ.เชียงใหม่ , น้ำตกลงรู จ.อุบลราชธานี , ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี , เป็นต้น.....สำหรับในส่วนของ จ.กระบี่ นั้นก็มี “ทะเลแหวก (Krabi Parting Sea)” เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand” ที่ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) แนะนำว่าทุกๆ ท่านไม่ควรพลาด !
|
.........................มุมมองใหม่ประเทศไทย.........................
|
|
.........................ทะเลแหวก ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่.........................
|
ทะเลแหวก : ชั่วขณะแห่งความงดงามตามธรรมชาติ
ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่หมุนเวียนเปลี่ยนผันแปรไปตามเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์สร้างไว้อย่างยุติธรรม แม้ว่าบางครั้งปรากฏการณ์อย่างเช่น แผ่นดินไหว.....ภูเขาไฟระเบิด.....น้ำป่าไหลหลาก.....พายุหมุน.....คลื่นยักษ์ จะดูเหมือนโหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณีต่อสรรพชีวิตอันบอบบางทั้งหลายทั้งมวล หากแต่แท้จริงกลับแฝงไว้ด้วยเรื่องราวแห่งดุลยภาพดังที่ควรจะเป็น และเมื่อเราลองมองในมุมกลับถึงปรากฏการณ์อย่างแสงเหนือ.....สายรุ้ง.....ผีพุ่งใต้.....ทะเลหมอก ซึ่งก่อกำเนิดให้เกิดความสุขขึ้นภายในหัวใจของใครหลายๆ คนที่ได้พบเห็นนั้น ที่แท้แล้วธรรมชาติก็ไม่ได้เคยสนใจใยดีว่าใครจะรู้สึกเช่นไร.....เพราะในความเป็นจริง.....หน้าที่ที่จะต้องเรียนรู้และปฏิบัติต่อสิ่งต่างๆ ซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่งให้ถูกต้อง เหมาะสม หรือสมดุล เป็นหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
|
...............ขบวนเรือในกระแสลม...............
|
|
...............เหนือผืนน้ำ ใต้แผ่นฟ้า นาวาลอยลำ...............
|
ทะเลแหวก ก็คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดต่ำลง จนทำให้มองเห็นแนวสันทรายใต้น้ำโผล่ขึ้นเชื่อมต่อเป็นทางเดินระหว่างเกาะ 3 เกาะกลางท้องทะเล ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยเกาะทั้ง 3 แห่งนี้ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ และ เกาะทับ .....อย่างไรก็ตาม.....ช่วงเวลาที่น้ำทะเลจะลดลงต่ำจนนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแนวสันทรายใต้น้ำปรากฏขึ้นมาได้แบบเต็มๆ ตานั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน และแนวสันทรายดังกล่าวก็จะเปิดเผยตัวเองอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง (เราไม่สามารถมองเห็น “ทะเลแหวก” ได้ตลอดทั้งวัน แต่จะสามารถมองเห็นได้เฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้นครับ) “ทะเลแหวก” จึงมีความเหมาะสมที่จะได้รับการจารึกชื่อไว้ในฐานะของแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็น Unseen Thailand อย่างยิ่ง
|
...............ทะเลใสแบบนี้ เราต้อง Selfie ให้โลกรู้...............
|
|
.........................Master of the Sea.........................
|
.....แท้จริงแล้ว.....ปรากฏการณ์ที่น้ำทะเลลดลงต่ำจนมีแนวสันทรายใต้น้ำโผล่ขึ้นมาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่กับ “ทะเลแหวก จ.กระบี่” เท่านั้น หากเรายังสามารถพบเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวได้จากสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในประเทศไทย อาทิเช่น แนวสันทรายซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง “เกาะม้า” และ “อ่าวแม่หาด” ของเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี , ทางเดินธรรมชาติระหว่าง “เกาะนก” และ “หาดท่าเขา” ของเกาะยาวน้อย จ.พังงา หรือยามเมื่อน้ำทะเลด้านหน้า “หาดนพรัตน์ธารา” จ.กระบี่ ลดต่ำลงก็จะเกิดแนวทรายทอดยาวออกไปยัง “เกาะเขาปากคลอง” เบื้องหน้า เป็นต้น
|
...............ชั่วขณะแห่งความงดงามตามธรรมชาติ...............
|
|
....................มหาสมุทรห้อม หินล้อมทราย....................
|
ถึงกระนั้น.....ปรากฏการณ์ของ “ทะเลแหวก จ.กระบี่” ก็ยังถือได้ว่ามีความพิเศษมากกว่าปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแห่งอื่นๆ ในประเทศไทย เนื่องจากน้ำทะเลโดยรอบบริเวณ “ทะเลแหวก” ในวันที่คลื่นลมสงบจะสวยใสราวกับกระจกจนสามารถมองเห็นพื้นทรายใต้น้ำได้อย่างชัดเจน มีกองหินใต้น้ำขนาดเล็กกระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ ซึ่งบางครั้งก็จะมีฝูงปลาสลิดหินลายบั้งว่ายวนเวียนเข้ามายังกองหินเหล่านี้ และหากคุณโชคดีมากพอก็อาจพบกับนกเงือกบางชนิดบริเวณ “เกาะไก่” ได้ด้วย
|
...................................3 ต่อ 1...................................
|
|
.........................Right Here Waiting.........................
|
ทัวร์ทะเลแหวก : โปรแกรมทัวร์ที่ออกเรือได้เกือบตลอดทั้งปี
.....โดยปกติ.....สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะมีช่วงเวลาซึ่งถือได้ว่าสวยงามมากที่สุดแตกต่างกันไป สำหรับ “ทะเลแหวก จ.กระบี่” นั้นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด ก็คือ ช่วงนอกฤดูมรสุมตั้งแต่ราวกลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้หากไม่มีพายุฤดูร้อนหรือลมมรสุมขาจรพัดผ่านเข้ามายังท้องทะเลอันดามัน คลื่นลมบริเวณ “ทะเลแหวก จ.กระบี่” จะค่อนข้างเงียบสงบส่งผลให้น้ำทะเลใสสวยงาม
|
...................................7 Wonders ?...................................
|
|
นี่คือบางส่วนของความสวยงามที่ ทัวร์ทะแลแหวก จะพาคุณมาสัมผัส
|
ส่วนในช่วงเวลาตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเรื่อยไปจนกระทั่งถึงราวๆ ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกๆ ปีนั้นถือเป็นช่วงฤดูมรสุม ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดพาเอามวลอากาศชื้นเข้ามายังทะเลอันดามัน ส่งผลให้คลื่นลมโดยรอบบริเวณชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกของประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นและเกิดฝนตก .....อย่างไรก็ดี.....“ทะเลแหวก จ.กระบี่” นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งอ่าวนางเพียงแค่ราวๆ 10 กิโลเมตร ทำให้เรือทัวร์ต่างๆ สามารถแล่นพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณ “ทะเลแหวก” ได้เกือบตลอดทั้งปี (แต่นักท่องเที่ยวก็ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าว่า ในช่วงฤดูมรสุมตะกอนทรายใต้น้ำจะถูกคลื่นลมซึ่งมีกำลังแรงขึ้นกวนจนฟุ้งกระจายส่งผลให้น้ำทะเลไม่ใสเท่าที่ควร และยังมีโอกาสพบเจอกับแมงกะพรุนได้มากกว่าปกติด้วยครับ)
|
.........................Chinese walkers.....Keep walking.........................
|
|
มีแค่เพียงบางช่วงเวลาระหว่างวันที่ ทะเลแหวก จะปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน
|
ยิ่งได้ไปเที่ยวหลายเกาะยิ่งคุ้มค่า จริงหรือ ?
ก่อนที่จะไปค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า “ยิ่งได้ไปเที่ยวหลายเกาะยิ่งคุ้มค่า จริงหรือ ?” ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) คิดว่าเราน่าจะมาทำความรู้จักกับโปรแกรมทัวร์แต่ละแบบและเกาะแต่ละแห่งเสียก่อน.....เพื่อจุดประสงค์ในท้ายที่สุด คือ ให้คุณผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่าโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวกที่ท่านจะเลือกใช้บริการนั้นมีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการของตนหรือไม่ ?
|
.........................เทียบฝั่ง เกาะปอดะ.........................
|
|
...................................เดินฝ่าทะเลใส...................................
|
1. ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ : นี่คือโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวกในยุคบุกเบิกที่ยังคงเปิดให้บริการเรื่อยมาจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปเยือนเกาะทั้งหมด 4 แห่งและอีก 1 ชายหาด ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ เกาะปอดะ และหาดถ้ำพระนาง.....ทีนี้เราลองไปทำความรู้จักกับสถานที่แต่ละแห่งกันเลย
เกาะไก่ : เมื่อครั้งอดีตชาวบ้านในท้องถิ่นเคยเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะด้ามขวาน” เนื่องจากทางตอนใต้ของเกาะมีแท่งหินขนาดใหญ่รูปร่างลักษณะคล้ายกับด้ามขวานตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเด่น แต่เมื่อเกาะแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็มีผู้ออกความเห็นว่าหากลองมองในภาพรวมแล้วเกาะแห่งนี้ดูจะมีลักษณะสัณฐานคล้ายแม่ไก่กำลังนั่งกกไข่มากกว่าด้ามขวาน (โดยส่วนแท่งหินใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับด้ามขวานซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะนั้นถูกมองเห็นคล้ายกับส่วนคอและหัวของแม่ไก่) ต่อมาผู้คนจึงนิยมเปลี่ยนมาเรียกชื่อเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะไก่” และค่อยๆ ลืมเลือนชื่อ “เกาะด้ามขวาน” อันเป็นชื่อดั้งเดิมไป
|
.........................@ Krabi Parting Sea.........................
|
|
.........................รั้งสมอ รออาคันตุกะ.........................
|
ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของเกาะไก่มีหาดทรายสีขาวนวลเนื้อเนียนละเอียด ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำจะปรากฏแนวสันทรายจากชายหาดด้านทิศเหนือค่อยๆ ยื่นยาวออกไปเชื่อมต่อกับแนวสันทรายระหว่างเกาะหม้อและเกาะทับ (แนวสันทรายที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะหม้อและเกาะทับก็จะค่อยๆ เผยตัวให้เห็นในช่วงน้ำลงเช่นเดียวกันครับ) เกิดเป็นปรากฏการณ์ “ทะเลแหวก” อันโด่งดัง .....อย่างไรก็ตาม.....ช่วงเวลาที่น้ำทะเลจะลดลงต่ำจนกระทั่งสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ทะเลแหวกได้อย่างชัดเจนนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดูกาลและสัมพันธ์กับลักษณะแรงดึงดูดของดวงจันทร์ตามระยะเวลาข้างขึ้นข้างแรมด้วย (ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ – แรม 1 ค่ำ หรือแรม 15 ค่ำ – ขึ้น 1 ค่ำ น้ำทะเลจะลดลงต่ำที่สุดราวๆ เวลา 6.00 น.และ 18.00 น. ทำให้สามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์ทะเลแหวกได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลาดังกล่าว.....แต่หากเป็นวันขึ้น 7 – 8 ค่ำ หรือ แรม 7 – 8 ค่ำ น้ำทะเลก็จะลดลงต่ำที่สุดราวๆ เวลา 12.00 น.และ 24.00 น.ครับ) เพราะฉะนั้นหากคุณอยากจะเห็นทะเลแหวกแบบเต็มตาจริงๆ ก็ควรจะวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าให้เหมาะสมกับช่วงเวลาต่างๆ
|
...............เรือหัวโทง : เอกลักษณ์แห่งแดนใต้...............
|
|
.........................สองเราในสรวงสวรรค์.........................
|
ใต้ผืนน้ำใสโดยรอบบริเวณเกาะไก่มีแนวปะการังกระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ ทั้งทางด้านทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันตก ซึ่งจากการสำรวจของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) พบว่าแนวปะการังที่มีความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ที่สุดนั้นจะกระจายตัวอยู่ทางผืนน้ำฝั่งทิศตะวันออก ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังที่สามารถพบได้บริเวณนี้ เช่น ปะการังโขด ปะการังเขากวางพุ่ม ปะการังโต๊ะ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังดอกเห็ด ปะการังวงแหวน หอยมือเสือ ดาวหมอนปักเข็ม ปลานกขุนทองเขียวพระอินทร์ เป็นต้น.....เกาะไก่ถือเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกเกือบทุกรายมักจะพานักท่องเที่ยวไปเยือนอยู่เสมอ
|
.........................วินาทีแห่งความสุข.........................
|
|
................กลุ่ม ทัวร์ทะเลแหวก มาถึงแล้ว.....ว....ว...ว..ว................
|
มีข้อควรรู้บางประการสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งจะเลือกใช้บริการทัวร์ทะเลแหวกทุกๆ ประเภท คือ การที่นักท่องเที่ยวจะได้ลงดำน้ำตื้น (Snorkeling) ณ จุดใดนั้น มัคคุเทศก์ผู้ดูแลทัวร์จำเป็นจะต้องประเมินสภาพคลื่นลม ระดับน้ำ รวมถึงข้อกำหนดทางด้านความปลอดภัยต่างๆ แล้วมัคคุเทศก์จึงจะตัดสินในเลือกจุดดำน้ำตื้นประจำวัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นทำให้บางครั้งนักท่องเที่ยวอาจไม่ได้ลงดำน้ำตื้น ณ จุดซึ่งแนวปะการังมีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมากที่สุดก็เป็นได้ (ยกตัวอย่างเช่น หากในวันนั้นๆ คลื่นลมบริเวณจุดดำน้ำตื้นทางด้านทิศตะวันออกของเกาะไก่มีกำลังแรง มัคคุเทศก์ก็จะหลีกเลี่ยงจุดดำน้ำตื้นดังกล่าวแล้วพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำทางฝั่งทิศตะวันตกโดยใช้เกาะไก่เป็นแนวกำบังลมแทน เป็นต้น)
|
.........................สาวน้อย หน้า เกาะทับ.........................
|
|
.........................เกาะปอดะ และ เกาะตังหมิง.........................
|
เกาะหม้อ : ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ดูคล้ายกับหม้อลอยอยู่กลางท้องทะเลทำให้ชาวบ้านท้องถิ่นสมัยเก่าพร้อมใจกันขนานนามเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะหม้อ”.....เกาะแห่งนี้คือ 1 ใน 3 เกาะสำคัญอันเป็นส่วนหนึ่งของทะเลแหวก ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะไก่ ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลขึ้นสูงจะมองเห็นราวกับว่าเกาะหม้อไม่มีชายหาด แต่เมื่อน้ำทะเลลดต่ำลงก็จะปรากฏแนวสันทรายขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะแห่งนี้ยาวเชื่อมต่อไปยังแนวสันทรายของเกาะทับและเกาะไก่กลายเป็นปรากฏการณ์ทะเลแหวกอันลือลั่น เกาะหม้อมีแนวปะการังเสื่อมโทรมสภาพไม่ค่อยสวยงามกระจัดกระจายอยู่โดยรอบ หากคลื่นลมสงบน้ำทะเลบริเวณนี้จะใสราวกับกระจก
|
แม้แต่คู่รักชาวพม่าก็ยังเลือกมาเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ ที่ ทะเลแหวก จ.กระบี่
|
|
...................................ผู้นำ..........ผู้ตาม...................................
|
เกาะทับ : คือเกาะอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นส่วนประกอบของทะเลแหวก จ.กระบี่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหม้อ .....ว่ากันว่า.....ชื่อเรียกของเกาะแห่งนี้มาจากชื่อเครื่องดนตรีลักษณะคล้ายกลองขึงหนังหน้าเดียวที่ใช้ตีให้จังหวะในการแสดงโนรา บนเกาะทับมีเนินเขาเตี้ยๆ ซึ่งปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ที่ยืนต้นแผ่กิ่งก้านใบให้ร่มเงา ในยามเมื่อน้ำทะเลลดลงต่ำจะเกิดแนวสันทรายทอดยาวจากชายหาดด้านทิศตะวันตกของเกาะทับยื่นยาวไปจรดกับแนวสันทรายของเกาะหม้อและเกาะไก่ ท้องทะเลบริเวณริมชายหาดด้านทิศใต้ของเกาะแห่งนี้มักจะมีฝูงปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลืองว่ายวนเวียนเข้ามาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนอยู่เสมอๆ (โดยปกติเรือทัวร์ทะเลแหวกทุกๆ แบบจะพานักท่องเที่ยวมาลงเล่นน้ำบริเวณแนวสันทรายที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะหม้อและเกาะทับครับ)
|
....................Fire in the Sky ?....................
|
|
.........................7 เกาะมหัศจรรย์.........................
|
เกาะปอดะ : เป็นเกาะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายหาดอ่าวนางมากที่สุดในบรรดาเกาะทั้ง 4 แห่งของโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” (เกาะปอดะตั้งอยู่ห่างจากชายหาดอ่าวนางราว 8 กิโลเมตรครับ) ในอดีตเกาะแห่งนี้เคยมีเอกชนเข้ามาถือครองทำประโยชน์โดยการปลูกสร้างรีสอร์ทและร้านอาหารนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 – 2554 ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ยื่นฟ้องต่อศาลให้เพิกถอนสิทธิ์การเข้าทำประโยชน์ของเอกชนและขอให้ส่งคืนพื้นที่เกาะปอดะแก่กรมอุทยานฯ .....ปัจจุบัน.....ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เอกชนรายดังกล่าวคืนพื้นที่แก่กรมอุทยานฯ พร้อมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งอาคารรีสอร์ทและร้านอาหารออกจนเรียบร้อยหมดแล้ว
|
.........................หาดยาวขาวสะอาด.........................
|
|
.........................มุ่งหน้า มาเที่ยว.........................
|
เกาะปอดะมีหาดทรายสีขาวนวลยาวตั้งแต่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือเรื่อยลงมาจนกระทั่งถึงทิศตะวันออก หากอยู่ในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบน้ำทะเลโดยรอบบริเวณชายหาดจะเป็นสีฟ้าอมเขียวอ่อนใสสวยงามมาก บางครั้งถ้านักท่องเที่ยวลงไปยืนหรือสวมเสื้อชูชีพแล้วลอยคอทำตัวนิ่งๆ กลางท้องทะเลใสสักพักก็จะมีฝูงปลาสลิดหินลายบั้งซึ่งคุ้นเคยกับผู้คนเป็นอย่างดีเข้ามาว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆ (ปลาสลิดหินลายบั้งบางตัวอาจเข้ามางับนักท่องเที่ยวเบาๆ ให้พอรู้สึกจั๊กจี้ได้บ้างครับ) เป็นประสบการณ์ที่สร้างความเบิกบาน สนุกสนาน และประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนเสมอ
|
...................................หน้าต่างโลก...................................
|
|
...................................Poda Island...................................
|
นอกเหนือจากความงดงามโดดเด่นของน้ำทะเลใสและหาดทรายสีขาวนวลแล้ว บนเกาะปอดะก็ยังมีสัตว์ประจำถิ่นตัวน้อยๆ อีกชนิดหนึ่งซึ่งมักจะสร้างรอยยิ้มให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นอยู่เสมอๆ นั่นก็คือ “ลิงแสม” โดยปกติคุณจะสามารถพบเจอเจ้าลิงน้อยหน้าทะเล้นชนิดนี้จับกลุ่มรวมตัวกันอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ริมชายหาด บางตัวก็กำลังจับแมลงจากหลังของเพื่อนส่งเข้าปากเคี้ยวหยับๆ บ้างก็จดจ้องมองดูกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนอย่างตั้งอกตั้งใจ ลิงแสมสูงอายุบางตัวนั่งแยกเขี้ยวส่งเสียงขู่ลูกลิงตัวเล็กตัวน้อยไม่ให้เดินเข้ามายุ่มย่ามในอาณาเขตของตน .....อย่างไรก็ดี.....ถึงแม้ว่ากลุ่มลิงแสมแห่งเกาะปอดะเหล่านี้จะดูน่ารักน่าชังอยู่ไม่น้อย แต่หากนักท่องเที่ยวเผลอเมื่อไหร่พวกมันก็อาจวิ่งเข้ามาแย่งอาหาร ผลไม้ ของว่าง หรือสัมภาระต่างๆ ไปได้
|
....................ไทยมุง ฝรั่งมอง จีนจ้อง จับตา....................
|
|
...................................ลาจาก...................................
|
จากชายหาดทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปอดะ.....หากลองมองออกไปยังท้องทะเลกว้างก็จะเห็นเกาะหินปูนกลางน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีความสูงเทียบเท่าได้กับตึกหลายชั้น ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะตังหมิง” สำหรับผู้ที่เลือกใช้บริการ 7 Islands snorkeling sunset tour หรือทัวร์ทะเลแหวกแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นลักษณะ Sunset tour (จะกล่าวถึงโปรแกรมเหล่านี้อีกครั้งในบทความช่วงต่อๆ ไปครับ) ก็จะมีโอกาสได้มานั่งกินลมชมบรรยากาศในขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ คล้อยต่ำแล้วลาลับหายลงไปภายใต้เส้นขอบฟ้าโดยมีเกาะตังหมิงประดับอยู่เป็นฉากหน้า (ตามปกติผู้ให้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” จะพานักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะปอดะในช่วงเวลากลางวันโดยไม่ได้มีการรอชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น เพราะฉะนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการรอชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะปอดะก็ต้องเลือกใช้บริการทัวร์ทะเลแหวกแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นลักษณะ Sunset tour ครับ)
|
...................................Couple...................................
|
|
...................................Mirror Image...................................
|
หาดถ้ำพระนาง : เรื่องเล่าพื้นบ้าน ตำนานเก่าแก่ และนิทานปรัมปรา เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษยชาติมาตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ เรื่องราวเหล่านี้บ้างก็แฝงไว้ด้วยคติสอนใจ ภูมิปัญญาโบราณ หรือข้อเท็จจริงบางประการซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีต บ้างก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงตลกขบขันแล้วเล่าสู่กันมาปากต่อปาก บ้างก็เป็นกลอุบายอันแยบยลซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เอาไว้ใช้ขู่หรือกำราบความซุกซนของบุตรหลานให้รู้สึกเกรงกลัวต่อการกระทำผิดต่างๆ แต่ไม่ว่าเรื่องราวในครั้งก่อนเก่าเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลกลใด มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยแต่งแต้มสีสันและเติมเต็มบรรยากาศอันน่าหลงใหลให้กับสถานที่ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.....ดังเช่นเรื่องราวของ “หาดถ้ำพระนาง” ซึ่งทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ได้ค้นคว้ามาต่อไปนี้
|
ส่วนใหญ่มัคคุเทศก์ประจำ ทัวร์ทะเลแหวก ก็มาดเข้มแบบนี้เกือบทุกคนล่ะ
|
|
.........................ลิงแสมใต้ร่มเงาไม้.........................
|
“หาดถ้ำพระนาง” นับเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญซึ่งผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกทุกๆ ประเภทมักจะพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ชายหาดแห่งนี้มีเนื้อทรายสีขาวอมน้ำตาลอ่อนคล้ายสีเปลือกไข่ น้ำทะเลเบื้องหน้าเป็นสีเขียวมรกตค่อนข้างใส (แต่ไม่ใสมากเหมือนบริเวณทะเลแหวกครับ) สุดปลายชายหาดด้านทิศใต้มีถ้ำตื้นๆ เล็กๆ ตั้งอยู่เรียกชื่อว่า “ถ้ำพระนาง” (ถ้ำแห่งนี้เป็นที่มาของชื่อ “หาดถ้ำพระนาง” ครับ) โดยมีตำนานเรื่องราวอันเกี่ยวข้องกับจุดกำเนิดของชื่อดังกล่าวตามที่จะเขียนถึงในย่อหน้าถัดไป
|
.........................เรือคายักบน ชายหาดถ้ำพระนาง.........................
|
|
.........................ช่องว่างระหว่างเกาะ.........................
|
เรื่องราวตามตำนานของ “ถ้ำพระนาง” เริ่มต้นขึ้นว่า.....นานมาแล้ว “ครอบครัวตายมดึง” ต้องการมีลูกจึงได้ไปวิงวอนขอร้อง “พญานาค” ให้ประทานลูกแก่ครอบครัว ฝ่ายพญานาคได้ตกปากรับคำแต่มีข้อแม้ว่าหากครอบครัวตายมดึงมีลูกสาวก็จะต้องให้แต่งงานกับลูกชายของตน กาลต่อมาครอบครัวตายมดึงจึงได้มีลูกสมความปรารถนา เป็นลูกสาวชื่อว่า “นาง”.....นางเติบโตเจริญวัยขึ้นจนเกิดมีความรักตามประสาหนุ่มสาวกับลูกชายของ “ครอบครัวตาวาปราบ” ชื่อว่า “บุญ”.....ครั้นเหตุการณ์เป็นดังนี้ในที่สุดครอบครัวตายมดึงและครอบครัวตาวาปราบจึงจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานให้กับหนุ่มสาวทั้งคู่ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก เมื่อพญานาคได้ทราบข่าวก็รู้สึกโกรธแค้นที่ครอบครัวตายมดึงไม่รักษาสัญญา ในวันงานแต่งงานพญานาคจึงจำแลงกายเป็นมนุษย์บุกเข้าอาละวาดแย่งชิงตัวนางผู้เป็นเจ้าสาว ฤๅษีซึ่งกำลังบำเพ็ญตบะอยู่ทราบเรื่องเข้าจึงได้ออกมาห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผล ฤๅษีจึงตัดสินใจสาปทุกอย่างให้กลายเป็นหิน.....เรือนหอได้กลายเป็น ถ้ำพระนาง.....ข้าวเหนียวกวนกลายเป็น สุสานหอย.....ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ กลายเป็น เกาะหม้อ , เกาะทับ และเกาะอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง.....ส่วนพญานาคได้กลายเป็น เขาหางนาค ในปัจจุบัน
|
ถ้ำพระนาง : สถานที่สิงสถิตของตำนานโศกนาฏกรรมแห่งความรัก
|
|
บริเวณ หาดไร่เลย์ และ ถ้ำพระนาง ถือเป็นจุดปีนเขาซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก
|
หาดถ้ำพระนางไม่มีถนนที่รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะเดินทางมายังชายหาดแห่งนี้จึงจำเป็นจะต้องเลือกใช้บริการทัวร์ทะเลแหวกแบบใดแบบหนึ่ง หรืออาจใช้บริการเรือเมล์ของชมรมผู้ประกอบการเรือหางยาวโดยสามารถขึ้นเรือเมล์ได้จากท่าเรือบริเวณอ่าวนางหรืออ่าวน้ำเมา (ท่าเรือของชมรมผู้ประกอบการเรือหางยาวบริเวณอ่าวนางจะไม่มีพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนท่าเรือบริเวณอ่าวน้ำเมาจะมีลานจอดรถเอกชนซึ่งคิดค่าบริการครับ) ซึ่งหากนักท่องเที่ยวไม่ได้ตัดสินใจเหมาเรือเมล์ก็ต้องรอจนกว่าจะมีผู้โดยสารเต็มลำ.....เรือเมล์จึงจะออกวิ่ง สนนราคาต่อคนต่อเที่ยวราว 80 – 100 บาท (เรือเมล์วิ่งให้บริการเฉพาะท่าเรือกับจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกเท่านั้น ไม่ได้พาไปยังจุดหมายหลายๆ แห่งในวันเดียวอย่างถ้วนทั่วและก็ไม่มีอาหารเครื่องดื่มให้บริการแต่อย่างใด ทำให้บริการทัวร์ทะเลแหวกน่าจะถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าครับ)
|
...................................ด้วยแรงศรัทธา...................................
|
|
...................................สักการะ...................................
|
.....เมื่อครั้งอดีตนานนับสิบปีมาแล้ว.....ในยามค่ำคืนท้องทะเลบริเวณหาดถ้ำพระนางจะมีปรากฏการณ์แปลกประหลาดมหัศจรรย์เกิดขึ้น โดยเมื่อชาวบ้านท้องถิ่นโยนก้อนหินหรือสิ่งใดๆ ลงไปในน้ำก็จะเกิดแสงสว่างวาบบริเวณจุดตกกระทบขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งแล้วเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ปู่ย่าตาทวดสมัยก่อนเชื่อว่านี่คืออำนาจอิทธิฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเรียกปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ว่า “พรายน้ำ” (เป็นปรากฏการณ์ทะเลเรืองแสงแบบเดียวกันกับที่เราได้รับชมจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง “Timeline” และภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง “Life of Pi” เพียงแต่ในภาพยนตร์นั้นจะใช้เทคนิคการสร้างภาพ Computer graphic ทำให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ดูสวยงามเกินกว่าความเป็นจริงครับ) ต่อมาเมื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้ามากขึ้นจึงทำให้เราได้ทราบว่าแท้จริงแล้วปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” นั้นเกิดขึ้นจาก “แพลงตอน” บางชนิดที่อาศัยอยู่อย่างชุกชุมในท้องทะเลบริเวณหาดถ้ำพระนาง โดยเจ้าแพลงตอนเหล่านี้จะเกิดเรืองแสงขึ้นเมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนนั่นเอง
|
...................................ชีวิต คือ การผจญภัย...................................
|
|
.........................เหล่านักเดินทาง.........................
|
ด้วยความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ของปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ทำให้มีผู้ประกอบการบางรายเกิดแนวความคิดที่จะจัดโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวกยามเย็นขึ้น (เป็นจุดกำเนิดของโปรแกรม “Sunset tour ทะเลแหวก” แบบต่างๆ) โดยผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นท่ามกลางความมืดมิดในช่วงเวลาประมาณ 19.00 - 19.20 น.เพื่อให้สามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ได้อย่างชัดเจน (จะมีแสงสว่างเรืองรองขึ้นรอบๆ ตัวเราขณะว่ายน้ำท่ามกลางความมืดครับ).....น่าเสียดายที่สภาพแวดล้อมซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ได้ทำให้ประชากรแพลงตอนเรืองแสงซึ่งเคยอาศัยอยู่กลางท้องทะเลโดยรอบบริเวณหาดถ้ำพระนางลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย ส่งผลให้ในปัจจุบันเราจะไม่สามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” อันน่าอัศจรรย์นี้ได้อย่างแจ่มชัดเหมือนกับเมื่อครั้งอดีต (ทุกวันนี้ผู้ประกอบการซึ่งจัดโปรแกรม “Sunset tour ทะเลแหวก” มักจะใช้วิธีการตักน้ำทะเลบริเวณหาดถ้ำพระนางขึ้นมาราดลงบนพื้นเรือ แล้วให้นักท่องเที่ยวสังเกตดูแสงสว่างวาบจุดเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นมาคล้ายกับหิ่งห้อย.....ข้อดี คือ วิธีการนี้ยังช่วงป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากแมงกะพรุนในยามค่ำคืนด้วยครับ)
|
...................................ออกทะเล...................................
|
|
...................................รวมกัน เราอยู่...................................
|
2. ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ : เป็นโปรแกรมทัวร์ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” แบบดั้งเดิม โดยจะมีการเสริมเพิ่มจุดดำน้ำตื้นเข้ามาให้อีก 1 แห่ง (สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ ในโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” นั้นก็จะเหมือนกับโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” ไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ) โดยจุดดำน้ำตื้นที่ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปเยือนเพิ่มเติมในโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” นั้นอาจจะเป็นจุดดำน้ำตื้นบริเวณ “เกาะตังหมิง” หรือไม่ก็เป็นจุดดำน้ำตื้นบริเวณ “เกาะสี่” ซึ่งการจะเลือกพานักท่องเที่ยวไปยังจุดดำน้ำตื้นแห่งใดก็ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลและสภาพคลื่นลมในแต่ละวัน
|
...............ลองทายกันเล่นๆ สิว่า เกาะหัวดอ คือ เกาะไหน ?...............
|
|
...................................เกาะทะลุ จ.กระบี่...................................
|
เกาะตังหมิง : เป็นเกาะหินปูนขนาดใหญ่ที่ไม่มีหาดทราย มีความสูงเทียบได้กับตึกหลายชั้น หากนักท่องเที่ยวยืนอยู่บนชายหาดด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปอดะจะสามารถมองเห็นเกาะตังหมิงซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องทะเลเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน .....ในอดีต.....ใต้ผืนน้ำรอบเกาะตังหมิงเคยมีแนวปะการังที่สวยงาม แต่ภายหลังได้เกิด “ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว” ขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้เหลือแนวปะการังมีชีวิตภายใต้ท้องน้ำเกาะตังหมิงเพียงแค่ราวร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณในอดีต (ปะการังที่พบส่วนใหญ่จะเป็นปะการังดอกเห็ด ปะการังโขด ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง อาจพบฟองน้ำครกหรือปะการังโต๊ะได้บ้างครับ) .....ปัจจุบัน.....ผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกส่วนใหญ่จึงไม่นิยมพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นบริเวณนี้อีกแล้ว
|
.........................สนธยากำลังมาเยือน.........................
|
|
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในปัจจุบันเราจะไม่พบเห็นการตั้งโต๊ะรับประทานอาหารค่ำและโชว์ระบำไฟบนเกาะปอดะอีกแล้ว
|
เกาะสี่ : กลางท้องทะเลห่างออกไปทางด้านทิศใต้ของเกาะไก่อีกราว 2 กิโลเมตร มีเกาะซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มของแท่งหินปูนขนาดใหญ่ 4 แท่ง ชาวบ้านเรียกกลุ่มของแท่งหินปูนเหล่านี้ว่า “เกาะสี่”.....เกาะสี่เป็นเกาะซึ่งไม่มีชายหาดเช่นเดียวกับเกาะตังหมิง แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังและมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมากกว่า ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่เราสามารถพบเห็นได้บริเวณเกาะสี่ เช่น ปลาสลิดหินลายบั้ง ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ เป็นต้น.....อย่างไรก็ตาม.....ในช่วงฤดูมรสุมตั้งแต่ราวกลางเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน (Low season) คลื่นลมโดยรอบบริเวณเกาะสี่จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกส่วนใหญ่จะไม่นิยมพานักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะแห่งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว (เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวครับ)
|
.........................Rhapsody in Blue ?.........................
|
|
.........................The Gold Experience.........................
|
สำหรับนักท่องเที่ยวที่คิดว่าอยากจะลองใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) แนะนำว่าต้องตรวจสอบรายละเอียดของโปรแกรมทัวร์กับผู้ประกอบการแต่ละรายให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เนื่องจากวิธีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกบางรายก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความสับสนได้ เช่น ในหัวโฆษณาหน้าแรกของผู้ประกอบการบางรายมีข้อความตัวโตระบุว่า “5 Islands tour” แต่พอลองอ่านเนื้อหาในตัวโฆษณาจริงๆ กลับพบว่ารายละเอียดโปรแกรมทัวร์ก็เหมือนๆ กันกับ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” แบบไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งหากได้ลองพูดคุยกับผู้ประกอบการรายนั้นๆ ก็จะทำให้ทราบได้ทันทีว่าโปรแกรมทัวร์จะมีการพานักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่ต่างๆ รวมด้วยกันทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ เกาะปอดะ และหาดถ้ำพระนาง โดยไม่มีการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นบริเวณเกาะตังหมิงหรือเกาะสี่แต่อย่างใด (แท้จริงแล้วก็คือโปรแกรมทัวร์ลักษณะเดียวกันกับ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” แบบเป๊ะๆ แค่มีการใช้คำเขียนในโฆษณาแตกต่างกันเท่านั้นเอง.....ซึ่งถ้ามีการใช้วลีบนหัวใบโฆษณาว่า “5 Places tour” น่าจะถูกต้องตรงตามความเป็นจริงมากกว่า.....เพราะถึงแม้ว่า “หาดถ้ำพระนาง” จะไม่สามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์ใดๆ แต่ “หาดถ้ำพระนาง” ก็ไม่ใช่ “เกาะ” ครับ)
|
.........................Saffron on the Sea.........................
|
|
...................................อาทิตย์อัสดง...................................
|
3. ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ : หรือ 7 Islands sunset snorkeling tour เป็นโปรแกรมทัวร์ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะพานักท่องเที่ยวไปชื่นชมความงดงามและแปลกประหลาดของปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ในท้องทะเลบริเวณ “หาดถ้ำพระนาง”.....ตามปกติ.....ผู้ประกอบการ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” จะเริ่มนำรถออกรับนักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมในย่าน “อ่าวนาง – อ่าวน้ำเมา” มายังท่าเรือตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 11.30 – 12.00 น.และจะเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ตามโปรแกรมทัวร์ราว 13.00 น.แล้วกลับมาถึงฝั่งเวลาประมาณ 19.30 – 20.00 น. (แตกต่างจากโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” และ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” ที่ผู้ประกอบการจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 8.20 – 9.15 น.แล้วเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ในเวลาประมาณ 9.30 น.และกลับมาถึงฝั่งราว 16.00 – 16.30 น.ครับ)
|
หากคุณเลือกใช้บริการ ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ (7 Islands Snorkeling Sunset Tour)
ก็จะมีโอกาสได้พบเห็นภาพบรรยากาศงามๆ แบบนี้
|
|
.........................กว่าจะกลับก็เริ่มค่ำมืด.........................
|
ในโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” นักท่องเที่ยวจะได้เดินทางไปเยือนเกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ และเกาะปอดะเฉกเช่นเดียวกันกับโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” (แตกต่างกันตรงที่ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” จะมีการปล่อยให้นักท่องเที่ยวรอชมพระอาทิตย์ตกบริเวณชายหาดเกาะปอดะ ในขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมากับ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” จะต้องกลับสู่ชายฝั่งก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกครับ) แต่จะมีการเพิ่มจุดดำน้ำตื้นเข้ามาในโปรแกรมทัวร์อีก 2 แห่งบริเวณ “เกาะแม่อุไร” และ “เกาะทะลุ จ.กระบี่” อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังจะได้ล่องเรือชมทิวทัศน์อันแปลกประหลาดของ “เกาะหัวดอ” และปิดท้ายด้วยการนั่งเรือฝ่าความมืดเพื่อไปชมปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” บริเวณ “หาดถ้ำพระนาง” แล้วผู้ประกอบการก็จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ “หาดไร่เลย์” เพื่อชมระบำไฟ..ถือเป็นอันจบโปรแกรมทัวร์
|
..........เพราะความรัก คือ การช่วยเหลือ.....เพราะความรัก คือ การแบ่งปัน..........
|
|
.........................รุ่นเก่า vs รุ่นใหม่.........................
|
เกาะแม่อุไร : หรือบางครั้งก็เรียกกันสั้นๆ ว่า “เกาะอุไร” เป็นอีกหนึ่งเกาะหินปูนที่ไม่มีชายหาด ตั้งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไก่ราว 2 กิโลเมตร ในช่วงฤดูมรสุม (ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกๆ ปี : Low season) ท้องทะเลโดยรอบบริเวณเกาะแห่งนี้จะมีคลื่นลมแรงไม่เหมาะแก่การดำน้ำ แต่หากเป็นในช่วงฤดูท่องเที่ยว (ราวกลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี : High season) น้ำทะเลจะค่อนข้างนิ่งและใสจนสามารถดำน้ำตื้นมองเห็นกลุ่มปะการังอ่อนรวมถึงสิ่งมีชีวิตสวยงามใต้ทะเลอื่นๆ ได้อย่างไม่ยากลำบากนัก
|
.........................มิตรภาพงดงามเสมอ.........................
|
|
...................................สี่สหาย...................................
|
เกาะทะลุ จ.กระบี่ : อีกหนึ่งจุดดำน้ำตื้นในโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” ถึงแม้ว่าเกาะแห่งนี้จะมีชื่อเหมือนกันกับ “เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์” , “เกาะทะลุ จ.ระยอง” และ “เกาะทะลุ จ.ชุมพร” แต่ทั้งหมดก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนละแห่งและตั้งอยู่คนละจังหวัดโดยไม่ได้มีพื้นที่คาบเกี่ยวกัน บริเวณฐานของเกาะมีถ้ำทะลุที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลาน้ำลง นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำผ่านถ้ำเปิดนี้จากฝั่งหนึ่งผ่านไปยังอีกฟากหนึ่งได้ ใต้ท้องน้ำภายในถ้ำอาจพบเห็นแส้ทะเล ดอกไม้ทะเล ปะการังอ่อน และปะการังแข็งหลากหลายชนิด.....อย่างไรก็ตาม.....ในช่วงฤดูมรสุมคลื่นลมบริเวณ “เกาะทะลุ จ.กระบี่” จะมีกำลังแรงและไม่เหมาะแก่การดำน้ำเช่นเดียวกับพื้นที่โดยรอบ “เกาะแม่อุไร”
|
.........................เรือทัวร์ลำสุดท้าย.........................
|
|
.........................เย็นย่ำหน้าหาด เกาะปอดะ.........................
|
เกาะหัวดอ : เป็นเกาะหินปูนขนาดย่อมกลางท้องทะเลซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันกับ “เกาะแม่อุไร” และ “เกาะทะลุ จ.กระบี่” ด้วยลักษณะทางกายภาพของเกาะที่ดูคล้ายอวัยวะเพศชายกำลังตั้งชูชันทำให้ชาวเรือในท้องถิ่นพากันขนานนามเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะหัวดอ” (บ้างก็เรียกสั้นๆ ตามลักษณะภาษาใต้ว่า “เกาะดอ” ครับ) เกาะหัวดอไม่ใช่สถานที่ดำน้ำแต่ผู้ประกอบการ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” ก็มักจะแล่นเรือพานักท่องเที่ยวมาชื่นชมความแปลกประหลาดของสภาพตามธรรมชาติดังกล่าวอยู่เสมอ
|
...............จุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยมของ ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ...............
|
|
ทุกวันนี้การแสดงระบำไฟถูกย้ายไปจัดบริเวณด้านหน้า หาดไร่เลย์ เรียบร้อยแล้ว
|
หาดไร่เลย์ : เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณากาแฟแก้วแดงยี่ห้อดังเจ้าหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2554 (เรย์ แมคโดนัล เป็นผู้รับบทนำในโฆษณาดังกล่าว) “หาดไร่เลย์” สามารถแบ่งแยกออกได้เป็น 2 ฝั่ง คือ หาดไร่เลย์ตะวันตกและหาดไร่เลย์ตะวันออก ทั้งสองชายหาดมีทางเดินเท้าเชื่อมต่อถึงกัน (และนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปถึง “หาดถ้ำพระนาง” ได้ด้วยครับ) แต่ไม่มีเส้นทางที่รถยนต์สามารถเข้าถึงได้เช่นเดียวกันกับ “หาดถ้ำพระนาง” นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะเดินทางมายังหาดไร่เลย์จึงจำเป็นจะต้องนั่งเรือเมล์จากท่าเรือบริเวณ “อ่าวนาง” หรือ “อ่าวน้ำเมา” เข้ามาเท่านั้น สนนราคาอัตราค่าบริการเรือเมล์อยู่ที่ 80 – 100 บาท/คน/เที่ยว (เรือเมล์อ่าวนาง – หาดไร่เลย์ – อ่าวน้ำเมา จะมีลักษณะเป็นเรือหางยาวของชมรมชาวบ้านในท้องถิ่น หากนักท่องเที่ยวไม่ต้องการเหมาเรือก็จะต้องรอคิวจนกว่าจะมีผู้โดยสารครบตามจำนวนที่กำหนด เรือจึงจะออกครับ) สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” จะมีโอกาสได้เดินทางมาเหยียบหาดไร่เลย์ในช่วงพลบค่ำเพื่อชมการแสดงระบำไฟอันน่าตื่นตา
|
...................................Flame Whip...................................
|
|
...................................Journey...................................
|
เพื่อความคุ้มค่า.....ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) แนะนำให้คุณตรวจสอบสภาพภูมิอากาศในช่วงวันที่กำหนดว่าจะเดินทางออกทัวร์ไว้ล่วงหน้า เพราะหากในวันที่คุณออกทัวร์เกิดคลื่นลมแรงก็เป็นเรื่องยากที่คุณจะได้มีโอกาสดำน้ำตื้นบริเวณ “เกาะแม่อุไร” และ “เกาะทะลุ จ.กระบี่” นอกจากนั้นก็ยังอาจจะไม่สามารถแล่นเรือไปยัง “เกาะหัวดอ” ได้ด้วย (เป็นการปฏิบัติตาม มาตรการเพื่อความปลอดภัยของผู้ประกอบการทัวร์ทะเลแหวกครับ) แต่ถึงเหตุการณ์จะเป็นดังกล่าวข้างต้น คุณก็ยังคงต้องชำระค่าบริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” เหมือนตามปกติโดยไม่มีส่วนลดใดๆ เลยแม้แต่น้อย (.....ดังนั้น.....ในช่วงฤดูมรสุมหรือในช่วงวันที่คาดว่าน่าจะมีคลื่นลมแรง การเลือกใช้บริการแค่เพียง “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” จึงอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่าครับ)
|
...............ปะการังโต๊ะแผ่นใหญ่บริเวณจุดดำน้ำตื้นใกล้ๆ ทะเลแหวก...............
|
|
...............ปะการังเห็ดซึ่งอยู่ท่ามกลางดงปะการังเขากวางจิ๋ว...............
|
4. ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่ : แท้จริงแล้วนี่ก็คือโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ + ทัวร์หมู่เกาะห้อง” แบบรวบรัด โดยมีสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ไปเยือนเพิ่มเติมนอกเหนือจากโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” ได้แก่ เกาะแดง (หินแดง) , เกาะลาดิง (Paradise island) , เกาะห้อง จ.กระบี่ (ทะเลใน & อ่าวบิเละ) , เกาะผักเบี้ยและเกาะไร่ .....อย่างไรก็ดี.....ระยะทางระหว่างหมู่เกาะห้องกับทะเลแหวกนั้นอยู่ห่างไกลกันค่อนข้างมาก (ใช้เวลาเดินทางโดยเรือหางยาวประมาณ 45 นาที – 1 ชม.ในกรณีที่ท้องทะเลราบเรียบและคลื่นลมสงบครับ) ทำให้มีหลายๆ ครั้งที่มัคคุเทศก์ผู้นำ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” จำเป็นต้องตัดรายการเยือนเกาะบางแห่งออกไปเพื่อให้สามารถรวบรัดจบโปรแกรมทัวร์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด (“ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” จะเริ่มต้นโปรแกรมในช่วงสายและกลับมายังฝั่งในช่วงหัวค่ำ หากปล่อยให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาเกินกว่ากำหนดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายในช่วงเวลากลางคืนได้ครับ)
|
ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่ แท้จริงแล้วก็คือ ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ + ทัวร์หมู่เกาะห้อง นั่นเอง
|
|
.........................ทะเลใสสีมรกตหน้า เกาะลาดิง.........................
|
เกาะแดง (หินแดง) : ด้วยลักษณะอันโดดเด่นที่ก่อตัวขึ้นจากก้อนหินน้อยใหญ่สีน้ำตาลแดงรวมตัวกันเป็นเกาะขนาดเล็กกลางท้องทะเล จ.กระบี่ จึงทำให้เกาะแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “เกาะแดง” หรือ “หินแดง” ในอดีตใต้ผืนน้ำโดยรอบบริเวณเกาะแดงเคยมีแนวปะการังที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ แต่สภาวะภูมิอากาศโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวขึ้น ส่งผลให้แนวปะการังบริเวณเกาะแดงได้รับความเสียหายไปเป็นอันมาก .....ถึงกระนั้น.....ผู้ประกอบการ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” และ “ทัวร์หมู่เกาะห้อง” (ในที่นี้หมายถึง ทัวร์หมู่เกาะห้องแบบธรรมดาๆ ที่ไม่ได้นำมาผนวกรวมเข้ากับ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” จนกลายเป็น “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ครับ) ก็ยังคงพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้น ณ เกาะแห่งนี้อยู่เสมอ
|
.........................เพิงพักของคนเก็บรังนกนางแอ่น.........................
|
|
...................................Paradise Island...................................
|
เกาะลาดิง : เกาะขนาดย่อมซึ่งเคยเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้าเก็บรังนกนางแอ่น มีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม กอปรไปด้วยภูเขาหินปูนสูงชันซึ่งโอบล้อมหาดทรายเล็กๆ เอาไว้ภายในคล้ายกับลักษณะของเกือกม้า หากคลื่นลมสงบน้ำทะเลด้านหน้าชายหาดเกาะลาดิงจะเป็นสีเขียวมรกตใสจนมองเห็นพื้นทรายและโขดหินใต้น้ำได้อย่างชัดเจน สำหรับชาวต่างชาติจะรู้จักเกาะแห่งนี้ในนามของ “Paradise island”.....ปกติมัคคุเทศก์ประจำ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” และ “ทัวร์หมู่เกาะห้อง” จะพานักท่องเที่ยวมาพักผ่อนเล่นน้ำริมชายหาดและนั่งรับประทานกลางวันที่เกาะลาดิงก่อนแล้วจึงออกเดินทางต่อไปยังเกาะห้อง
|
...................................มุมสบาย...................................
|
|
....................ต้นหน.....ทำหน้าที่.....ชี้ทาง....................
|
เกาะห้อง จ.กระบี่ : อีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเรียกอันชวนให้สับสนด้วยเหตุว่าในเขตพื้นที่ จ.พังงา ก็มีเกาะอีกแห่งหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า “เกาะห้อง” เช่นเดียวกัน.....แต่แท้จริงแล้ว “เกาะห้อง จ.กระบี่” และ “เกาะห้อง จ.พังงา” นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนละแห่ง (“เกาะห้อง จ.กระบี่” อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ ส่วน “เกาะห้อง จ.พังงา” จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จ.พังงา ครับ) สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกาะทั้งสองแห่งนี้มีชื่อพ้องเหมือนกันก็เนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศซึ่งเป็นภูเขาหินปูนสูงชันที่เรียงตัวโอบล้อมท้องทะเลเอาไว้ภายในคล้ายกับห้อง (ชาวต่างชาติมักจะเรียกลักษณะภูมิประเทศแบบนี้ว่า “Lagoon” ส่วนคนไทยจะเรียกว่า “ทะเลใน” ครับ) ตามปกติผู้ประกอบการ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ทุกๆ รายจะพานักท่องเที่ยวล่องเรือเข้ามาชมทัศนียภาพอันงดงามแปลกตาภายใน “ทะเลใน” ของเกาะห้อง จ.กระบี่ โดยไม่มีข้อยกเว้น
|
...............หาดกรวดเล็กๆ ด้านหนึ่งของ เกาะลาดิง...............
|
|
.........................ทะเลใน (Lagoon) เกาะห้อง จ.กระบี่.........................
|
สิ่งที่ทำให้ “เกาะห้อง จ.กระบี่” มีความแตกต่างจาก “เกาะห้อง จ.พังงา” อย่างชัดเจนก็คือ “อ่าวบิเละ” เวิ้งอ่าวคู่ซึ่งเรียงตัวเชื่อมต่อกันในลักษณะคล้ายปีกนก อ่าวแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวนวลเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า ในวันที่คลื่นลมสงบน้ำทะเลด้านหน้าอ่าวบิเละจะเป็นสีเขียวอ่อนใสสวยงามมาก (ส่วน “เกาะห้อง จ.พังงา” นั้นเป็นเกาะหินปูนที่ไม่มีชายหาดครับ) บริเวณอ่าวแห่งนี้มักจะมีฝูงปลาสลิดหินลายบั้งว่ายวนเวียนเข้ามาห้อมล้อมกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ สำหรับแนวปะการังใต้น้ำบริเวณอ่าวบิเละนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไหร่นัก แต่หากคุณได้ลองใช้ความพยายามว่ายน้ำ Snorkeling ดูให้ถ้วนทั่วสักหน่อยก็อาจพบเห็นกัลปังหาแฝดสองสีได้
|
...............โอ่....โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา มีน้ำ มีเขา ทะเลกว้างไกล...............
|
|
...................................สะพานเทียบเรืออ่าวบิเละ...................................
|
เกาะผักเบี้ย & เกาะไร่ : เกาะผักเบี้ยเป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งมีหาดทรายปนกรวดสีน้ำตาลอ่อนตั้งอยู่ 2 ฟากฝั่งของเกาะทางด้านทิศเหนือและด้านทิศใต้ หากเปรียบเทียบกับเกาะอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงอย่าง “เกาะห้อง จ.กระบี่” หรือ “เกาะลาดิง” แล้ว.....ชายหาดของเกาะผักเบี้ยยังถือว่ามีความสวยงามด้อยกว่าชายหาดของเกาะทั้งสองแห่งดังกล่าว ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำมากๆ จะปรากฏแนวสันทรายจากชายหาดด้านทิศเหนือของเกาะผักเบี้ยยื่นยาวเชื่อมต่อไปจนถึงหาดทรายของเกาะไร่ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ กันลักษณะคล้ายกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณทะเลแหวก สำหรับแนวปะการังใต้ผืนน้ำโดยรอบบริเวณเกาะทั้งสองแห่งนี้ (เกาะผักเบี้ย & เกาะไร่) อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างเสื่อมโทรมไม่สวยงามเท่าไหร่นัก บางครั้งหากมัคคุเทศก์ผู้ควบคุม “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ไม่สามารถจำกัดเวลาทัวร์ให้เป็นไปตามกำหนดการได้.....มัคคุเทศก์ก็อาจตัดสินใจไม่พานักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะผักเบี้ยและเกาะไร่เลยในวันนั้นๆ
|
..........ภาพบรรยากาศแบบนี้ ถ้าไม่ถ่ายเก็บไว้ก็คงจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีกง่ายๆ..........
|
|
.........................หลากมุมของ "อ่าวบิเละ" เกาะห้อง จ.กระบี่.........................
|
ค้นหา “ทัวร์ทะเลแหวก” ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
หากคุณได้ติดตามอ่านบทความทั้งหมดโดยละเอียดตั้งแต่ย่อหน้าแรกมาจวบจนกระทั่งถึงย่อหน้านี้ คุณก็คงมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะช่วยค้นหาคำตอบของคำถามในตอนต้นที่ว่า “ยิ่งได้ไปเที่ยวหลายเกาะยิ่งคุ้มค่า จริงหรือ ?” กันแล้ว.....อย่างไรก็ดี.....ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ขออนุญาตสรุปคำแนะนำแบบย่นย่อเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก” ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการและไม่ขัดแย้งกับข้อจำกัดเฉพาะกลุ่มของคุณ ดังต่อไปนี้
|
...............ฝูงปลาสลิดหินลายบั้งซึ่งคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี...............
|
|
...............ภาพที่เห็นแล้วบอกได้เลยว่ารู้สึก "หลงรักประเทศไทย" จริงๆ...............
|
1. ในช่วงฤดูมรสุม (Low season ราวกลางเดือนพฤษภาคมเรื่อยไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน) หรือในช่วงที่ท้องทะเลมีคลื่นลมแรง การดำน้ำตื้น (Snorkeling) บริเวณเกาะสี่ , เกาะทะลุ จ.กระบี่ และเกาะแม่อุไรมักจะทำได้ยากลำบาก น้ำทะเลมักจะขุ่นและอาจพบเจอแมงกะพรุนมาก.....การเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” , “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” หรือ “7 Islands snorkeling sunset tour” มีแนวโน้มที่จะได้รับความคุ้มค่าต่ำกว่าการเลือกใช้บริการเช่นเดียวกันนี้ในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High season ราวกลางเดือนพฤศจิกายนเรื่อยไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม)
|
...................................มรกตแห่งอันดามัน...................................
|
|
...................................เสน่ห์ของซากเรือ...................................
|
2. ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ซึ่งชื่นชอบการดำน้ำตื้น (Snorkeling) เพื่อสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แต่เพียงแค่อยากจะเล่นน้ำใสๆ และชมทิวทัศน์สวยๆ ของทะเลแหวก แนะนำว่าการเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” ก็อาจเพียงพอแล้วที่จะตอบสนองต่อความต้องการของคุณ เพราะในโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” หรือ “ทัวร์ทะเลแหวก 7 เกาะ” เหล่าบรรดาเกาะที่ผู้ประกอบการจัดเสริมเพิ่มเติมเข้ามาให้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเกาะซึ่งไม่มีชายหาด (เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ แต่ไม่สามารถขึ้นไปนั่งพักผ่อนบนเกาะได้ครับ) หากคุณไม่คิดจะดำน้ำก็ต้องนั่งรออยู่บนเรือโดยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน.....ส่วน “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ที่จะมีการนำนักท่องเที่ยวไปเยือนหมู่เกาะห้องด้วยนั้น ก็อาจถือได้ว่ายังพอจะมีความคุ้มค่าสำหรับผู้ซึ่งไม่ได้ชื่นชอบการดำน้ำตื้นอยู่บ้าง
|
........................................ปากทาง "ทะเลใน"........................................
|
|
........................................Emerald Sea........................................
|
3. ระวังความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการอ่านหัวข้อโฆษณาทัวร์ เนื่องจากมีผู้ประกอบการบางรายที่ใช้หัวข้อโฆษณาทัวร์ว่า “5 Islands tour” แต่เมื่อตรวจสอบลึกลงไปในรายละเอียดของโปรแกรมทัวร์จริงๆ แล้วกลับพบว่าไม่ได้มีความแตกต่างจากโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” ของผู้ประกอบการรายอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย สำหรับจุดสังเกตที่จะทำให้คุณทราบได้ว่า “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” หรือ “5 Islands tour” นั้นๆ เป็นของแท้หรือไม่ ? ก็คือ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” หรือ “5 Islands tour” ของแท้จะต้องมีการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ณ “เกาะตังหมิง” หรือไม่ก็ “เกาะสี่” เพิ่มเติมจากโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” ตามปกติ .....ถึงกระนั้น.....ในช่วงฤดูมรสุมหรือในวันที่ท้องทะเลมีคลื่นลมแรง มัคคุเทศก์ผู้ควบคุม “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” ของแท้ก็อาจยกเลิกการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำบริเวณ “เกาะตังหมิง” หรือ “เกาะสี่” ได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า (ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ “5 Islands tour” หรือ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” ของแท้จริงๆ หลงเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่รายและมีแนวโน้มว่าในอนาคตอาจไม่มีการเปิดโปรแกรมทัวร์ชนิดนี้อีกต่อไป เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะใช้บริการ “5 Islands tour” หรือ “ทัวร์ทะเลแหวก 5 เกาะ” ของแท้จริงๆ จึงควรจะตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วน.....มิใช่ดูแค่เพียงหัวข้อโฆษณาแล้วก็รีบตัดสินใจทันทีครับ)
|
........................................มุมลับในธรรมชาติ........................................
|
|
"เกาะแดง" หรือ "หินแดง" คือ 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรม ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่
|
4. “เวลา” คือหนึ่งในปัจจัยซึ่งจะกำหนดประเภทของทัวร์ที่เหมาะสมกับกลุ่มของคุณ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเวลาพักค้างแรมอยู่ในย่านอ่าวนางเพียงแค่ 3 วัน 2 คืนและต้องการจะออกไปทัวร์ทะเลอย่างถ้วนทั่ว “ทัวร์ทะเลแหวก เกาะ+ทัวร์หมู่เกาะห้อง” (One day trip) หรือที่นิยมเรียกกันในชื่อ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ก็นับเป็นทางเลือกที่น่าจะเหมาะสม แต่ถ้าคุณมีเวลาสัก 4 วัน 3 คืนและอยากจะใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอย่างเต็มที่ก็อาจเลือกใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” วันหนึ่ง แล้วเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะห้อง” อีกวันหนึ่งแยกจากกันก็ได้.....เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบอัตราค่าบริการระหว่าง “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” (ออกทัวร์ทะเลแบบรวบรัดภายในวันเดียว) กับ “ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ” และ “ทัวร์หมู่เกาะห้อง” (รวมเป็นออกทัวร์ทะเล 2 วัน) แล้วก็แทบจะไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายแพงกว่ากันสักเท่าไหร่เลย (การเลือกออกทัวร์ทะเล 2 วันยังมีข้อดีเพิ่มเติม คือ ได้ใช้เวลาอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งนานขึ้น แถมยังมีข้าวกลางวันให้กินทั้ง 2 วันด้วยครับ)
|
...............แค่เห็นก็คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าทำไมเกาะแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า เกาะแดง...............
|
|
ทะเลสวยแบบนี้ ใครๆ ก็คงจะอยากลงไปแหวกว่าย..........จริงไหมครับ ?
|
5. เป็นเรื่องที่แน่นอนว่ายิ่งมีจำนวนเกาะในโปรแกรมทัวร์เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายสำหรับโปรแกรมทัวร์นั้นๆ ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะฉะนั้นการจะเลือกใช้บริการทัวร์ประเภทใดก็อาจต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับงบประมาณของกลุ่มด้วย
.....สุดท้ายนี้.....ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลทั้งหมดที่พวกเราได้รวบรวมเรียบเรียงมานำเสนอต่อคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านนับตั้งแต่บรรทัดแรกเรื่อยมาจวบจนกระทั่งถึงบรรทัดนี้จะเป็นประโยชน์แก่การวางแผนท่องเที่ยวของท่านบ้างไม่มากก็น้อย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะใช้บริการ “ทัวร์ทะเลแหวก” หรือ “ทัวร์ 9 เกาะ จ.กระบี่” ก็สามารถตรวจสอบราคาทัวร์ประเภทต่างๆ ได้จากตารางราคา (ตารางราคาทัวร์วางอยู่ทางด้านล่างของบทความชิ้นนี้ครับ) และหากมีความประสงค์ที่จะจองทัวร์ประเภทใดก็สามารถโทรศัพท์มาแจ้งข้อมูลผู้จองหรือสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้จากหมายเลขโทรศัพท์ในกรอบทางด้านล่าง (หมายเลขโทรศัพท์วางอยู่ในกรอบทางด้านล่างถัดลงไปจากตารางราคาอีกทีครับ) ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้ความสนใจในการติดตามผลงานของพวกเรา รวมถึงขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่มอบความไว้วางใจในการเลือกใช้บริการทัวร์ซึ่งพวกเรานำเสนอมา ณ โอกาสนี้.....ขอบคุณครับ (ช่วงวันหยุดต่อเนื่องตามเทศกาลต่างๆ ควรติดต่อจองทัวร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 – 3 อาทิตย์ เพราะเรือทัวร์แต่ละลำสามารถรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนจำกัดและในช่วงวันหยุดต่อเนื่องเรือทัวร์จะถูกจองเต็มล่วงหน้าเสมอครับ)
|
........................................ดาวหมอนปักเข็ม........................................
|
|
..........กลุ่มปะการังเขากวางที่เพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้นใหม่บริเวณจุดดำน้ำตื้นใกล้ๆ ทะเลแหวก..........
|
ถ่ายภาพ และเขียนบทความโดย : ตฤณ ณ อัมพร
เรียบเรียง โดย : อรชร ลลิตผสาน
สงวนลิขสิทธิ์โดย : เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com)
โปรโมชั่น “ทัวร์ทะเลแหวก” ราคาถูก !! |
โปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก |
ราคา (บาท) |
ผู้ใหญ่ |
เด็ก (4-11 ปี) |
ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ โดย เรือหางยาว
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ)
เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง (ชมรายละเอียดด้านล่าง)
|
690
(walk in 1,400)
|
490
(walk in 800)
|
ทัวร์ทะเลแหวก 4 เกาะ โดย Speedboat
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ)
เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง (ชมรายละเอียดด้านล่าง)
|
890
(walk in 2,000)
|
690
(walk in 1,200)
|
ทัวร์ 7 เกาะ Sun Set โดย เรือหางยาว
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ)
เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง เกาะตังหมิง ชมแพลงตอนฯ
(งดบริการชั่วคราว)
|
750
(walk in 1,000)
|
490
(walk in 600)
|
ทัวร์ 7 เกาะ Sun Set โดย เรือใหญ่
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ)
เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง เกาะตังหมิง ชมแพลงตอนฯ
(งดบริการชั่วคราว)
|
xxx
(walk in 1,400)
|
xxx
(walk in 900)
|
ทัวร์ 7 เกาะ Sun Set โดย เรือ Speedboat
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ)
เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง เกาะตังหมิง ชมแพลงตอนฯ
(งดบริการชั่วคราว)
|
xxx
(walk in 1,500)
|
xxx
(walk in 1,000)
|
ทัวร์ 9 เกาะ
(ทัวร์ทะเลแหวก+ทัวร์หมู่เกาะห้อง)
โดย เรือหางยาว
(งดรับจองชั่วคราว)
|
xxxx
(walk in 1,500)
|
xxx
(walk in 1,000)
|
ทัวร์ทะเลแหวก เริ่มต้นภูเก็ต
โดย Ferry&Speedboat
(งดบริการชั่วคราว)
|
xxxx
(walk in 2,500)
|
xxxx
(walk in 1,800)
|
โปรโมชั่นนี้จัดให้เฉพาะผู้ซึ่งติดต่อจอง "ทัวร์ทะเลแหวก" และชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้า
ผ่านท่องเที่ยวดอทคอม ( www.thongteaw.com)
ตามหมายเลขโทรศัพท์ และ Line ID ในกรอบทางด้านล่างเท่านั้น
**เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทัวร์ออกเป็นบางวัน ไม่ได้ออกทุกวันเช่นช่วงเวลาปกติ โปรดสอบถามวันที่ทัวร์ออกก่อนวางแผนการจองที่พักหรือการเดินทาง**
|
*ราคาไม่รวมค่าธรรมเนียมอุทยาน ฯ ของชาวต่างชาติ ชำระที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ค่าธรรมเนียมอุทยานโปรดสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่หน้างาน*
*กรณีวันหยุดต่อเนื่อง หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง*
|
รับทันที !! ส่วนลดโปรโมชั่น "ทัวร์ทะเลแหวก" ราคาพิเศษ !!
เฉพาะผู้ซึ่งติดต่อจองทัวร์ทะเลแหวกล่วงหน้าตามเงื่อนไขผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม
ทาง Line ID หรือหมายเลขโทรศัพท์ :
(094) 2363295 , (094) 5193645 , (094) 2519214 Fax. (02) - 4571605
Line ID : thongteaw2 , thongteaw.com ,
trin.thongteaw.com , cimlee
กรุณาติดต่อสำรองทัวร์ทะเลแหวกล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 7 วัน ขอบคุณครับ/ค่ะ
หมายเลขโทรศัพท์ & Line ID ข้างต้น
ใช้เพื่อการติดต่อสำรอง "ทัวร์ทะเลแหวก" ล่วงหน้าเท่านั้น !!
กรณีไม่สะดวกสำรองทัวร์และชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้าตามเงื่อนไข
กรุณาติดต่อซื้อทัวร์ทะเลแหวก ในราคา Walk In
ตามปกติ
(ไม่มีโปรโมชั่นส่วนลดใด ๆ) ครับ/ค่ะ
|
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก 1 โดยเรือหางยาว
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง
|
รายการ |
08.00-09.30น. |
รับท่านจากโรงแรมที่พักในพื้นที่บริการ |
09.30 น. |
ออกเดินทางจากท่าเรือสู่จุดหมายแห่งแรกของวันคือ
"ถ้ำพระนาง" เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวประมงให้ความเคารพนับถือ จากนั้นเดินทางไปยัง "เกาะไก่" คุณจะได้พบกับความประหลาดใจ กับเกาะที่มีรูปร่างเหมือนกับไก่จริง ๆ แวะดำน้ำที่จุดดำน้ำที่สวยงามแห่งหนึ่งในทะเลแหวก ต่อจากนั้นเดินทางสู่ "เกาะทัพ" ชมทะเลแหวก ปรากฏการณ์ความงามทางธรรมชาติหนึ่งใน Unseen Thailand หลังจากชมความงามของทะเลแหวก เดินทางต่อสู่ "เกาะปอดะ" ท่านจะประทับใจกับหาดทรายขาว น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับการอาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำตื้นชมความสวยงามของโลกใต้ทะเล และพักรับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก |
15.00 น. |
เรือเดินทางกลับสู่อ่าวนาง พร้อมมีรถส่งท่านกลับสู่ที่พักโดยสวัสดิภาพ |
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก 2 โดยเรือเร็ว
: ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทับ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง
|
รายการ |
08.00-09.30น. |
รับท่านจากโรงแรมที่พักในพื้นที่บริการ |
09.30 น. |
ออกเดินทางจากท่าเรือสู่จุดหมายแห่งแรกของวันคือ "เกาะไก่" คุณจะได้พบกับความประหลาดใจ กับเกาะที่มีรูปร่างเหมือนกับไก่จริง ๆ แวะดำน้ำที่จุดดำน้ำที่สวยงามแห่งหนึ่งในทะเลแหวก ต่อจากนั้นเดินทางสู่ "เกาะทัพ" ชมทะเลแหวก ปรากฏการณ์ความงามทางธรรมชาติหนึ่งใน Unseen Thailand หลังจากชมความงามของทะเลแหวก เดินทางต่อสู่ "เกาะปอดะ" ท่านจะประทับใจกับหาดทรายขาว น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับการอาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำตื้นชมความสวยงามของโลกใต้ทะเล และพักรับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก ก่อนกลับแวะ "ถ้ำพระนาง" เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวประมงให้ความเคารพนับถือ |
15.30 น. |
เรือเดินทางถึงอ่าวนาง พร้อมมีรถส่งท่านกลับสู่ที่พักโดยสวัสดิภาพ |
ราคาโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก 1 - 2 รวม :
* รถรับ-ส่งจากที่พักบริเวณอ่าวนาง , ตัวเมืองกระบี่ (บริเวณที่กำหนด)
* อุปกรณ์ดำน้ำตื้น
* อาหาร เครื่องดื่ม ตามโปรแกรม
* ไกด์และประกันอุบัติเหตุ
* เรือเร็ว หรือ เรือหางยาว (สำหรับโปรแกรมที่มีการระบุ)
หมายเหตุ : โปรแกรมนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศและคลื่นลมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้าทางบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของทางลูกค้าเป็นหลัก
|
เงื่อนไขการจองทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง โปรโมชั่นราคาถูก ! โดยใช้ Line
สำหรับการจอง ทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง กรุณาแจ้งจองทัวร์และปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการจองทัวร์ต่างๆ ทางด้านล่างทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าก่อนกำหนดวันออกทัวร์อย่างน้อย 2 – 7 วัน (กรณีช่วงวันหยุดเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ควรติดต่อจองทัวร์และปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ มิฉะนั้นทัวร์อาจเต็มครับ)
ขั้นตอนการจองทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง โปรโมชั่นราคาถูก ! โดยใช้ Line
1.เปิด Application Line ใน Smartphone หรือ Tablet ของท่านขึ้นมา แล้วเลือกหัวข้อ “เพิ่มเพื่อน” จากนั้นให้เลือกหัวข้อ “ID/โทรศัพท์” ทางด้านขวาบนของหน้าเพิ่มเพื่อน
2.เลือกเพิ่มเพื่อนโดยใช้ Line ID : cimlee หรือ thongteaw.com หรือ thongteaw2
3.หากท่านไม่สะดวกในการเพิ่มเพื่อนจาก Line ID ท่านสามารถเลือกเพิ่มเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์ได้โดยการใส่หมายเลขโทรศัพท์ (094) 2363295 หรือ (094) 5193645 หรือ (094) 2519214 ลงในช่อง “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” แล้วกดเครื่องหมายแว่นขยาย (ช่องด้านบน “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” ให้ใช้รหัส Thailand +66 ซึ่งถ้าโทรศัพท์ของท่านใช้ SIM card ที่ลงทะเบียนในประเทศไทยก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใดๆ ครับ)
4. เมื่อทำการเพิ่มเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แจ้งข้อมูลผู้จองส่งมาทาง Line ให้ครบถ้วนดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ชื่อ – นามสกุล : (ต้องเป็นชื่อ – นามสกุลจริงๆ เท่านั้น ห้ามใช้ชื่อเล่นในการจอง) ของผู้จองซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่ม 1 ท่าน โดยผู้จองต้องเป็นผู้ที่มีหลักฐานยืนยันตัวตนแสดงต่อพนักงานขับรถ (ซึ่งจะขับรถไปรับที่โรงแรม/รีสอร์ทของท่าน) และเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนทำประกันบริเวณท่าเรือ (หลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับผู้จองชาวไทยใช้ “บัตรประชาชน” หรือ “ใบขับขี่” ส่วนหลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับชาวต่างประเทศใช้ “หนังสือเดินทาง : Passport” ครับ)
- หมายเลขโทรศัพท์มือถือ : ต้องเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถใช้ติดต่อกับผู้จองได้จริงในวันออกทัวร์
- ประเภททัวร์ทะเลแหวกที่เลือก : สามารถเลือกประเภททัวร์ได้จาก ทัวร์ทะเลแหวก แบบต่าง ๆ
- วันที่จะใช้บริการ : คือวันที่ต้องการจะไปออกทัวร์นั่นเอง
- จำนวนนักท่องเที่ยว : จำนวนรวมของนักท่องเที่ยวในกลุ่ม
- สัญชาตินักท่องเที่ยว : กรุณาแจกแจงข้อมูลว่าในกลุ่มของท่านมีนักท่องเที่ยวสัญชาติใดอยู่บ้าง ? แต่ละสัญชาติมีจำนวนกี่คน ? ยกตัวอย่างเช่น ไทย 4 คน จีน 2 คน อเมริกัน 1 คน เป็นต้น
- อายุเด็ก : สำหรับทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง ทุกๆ แบบ “เด็ก” หมายถึงผู้ที่มีอายุระหว่าง 3 - 11 ปี และจะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราของเด็ก หากอายุไม่ถึง 3 ปี สามารถใช้บริการทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง (นั่งตักผู้ใหญ่) กรณีที่อายุเกิน 11 ปี หรือสูงกว่า 130 ซม. จะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราเดียวกับผู้ใหญ่ (ไม่ถือว่าเป็นเด็กครับ) เพราะฉะนั้นหากแจ้งจองทัวร์โดยระบุว่ามีเด็กอยู่ภายในกลุ่มจึงจำเป็นจะต้องแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของอายุ และส่วนสูงเด็กไว้ด้วย
- ชื่อที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท ที่ต้องการจะให้รถไปรับส่ง : ทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง ทุกประเภทให้บริการรถรับส่งฟรีเฉพาะที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท ที่อ่าวนาง สำหรับตัวเมืองกระบี่ และหาดคลองม่วงฟรีในพื้นที่ที่กำหนด โปรดแจ้งชื่อที่พักให้ทราบเพื่อจะได้ตรวจสอบพื้นที่และแจ้งเวลารถรับ
5.เมื่อแจ้งข้อมูลการจองครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้รอรับข้อความยืนยันการจองทาง Line (กรณีทัวร์เต็มก็จะมีการแจ้งผลการจองกลับทาง Line ให้ทราบเช่นกันครับ)
6.เมื่อได้รับข้อความยืนยันการจองเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรุณาชำระค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีทางด้านล่างภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อความยืนยันการจอง (ก่อนชำระค่าใช้จ่ายโปรดตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนเงิน, ชื่อ และเลขที่บัญชีทุกครั้งด้วยครับ) หากไม่มีการชำระค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด การจองจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
บัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเมืองทองธานีซิตี้เซ็นเตอร์ 2
ชื่อบัญชี : Thongteaw.com (ท่องเที่ยวดอทคอม)
เลขที่บัญชี : 402-222838-7
|
7.เมื่อชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย กรุณาส่งหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายมาทาง Line
- กรณีเป็น Slip จากตู้ ATM หรือใบนำฝากของธนาคารให้ใช้การถ่ายรูปส่งทาง Line
- กรณีเป็นการโอนผ่าน Application บน Smartphone หรือ Tablet ให้ Capture หน้าจอซึ่งดำเนินการชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งมาทาง Line
8.ทีมงานจะใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าใช้จ่าย ตรวจสอบความถูกต้องของยอดโอน และดำเนินการส่ง Voucher กลับทาง Line ภายในเวลา 24 – 48 ชม. หากยอดโอนหรือหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ทีมงานจะแจ้งให้ท่านทราบทาง Line เพื่อขอความกรุณาให้ท่านดำเนินการอย่างถูกต้องอีกครั้ง
9.เมื่อได้รับ Voucher เรียบร้อยแล้ว ในวันออกทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง ท่านสามารถใช้หลักฐานยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน, ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง แล้วแต่กรณี) ร่วมกับการแสดง Voucher จาก Smartphone หรือ Tablet เพื่อ Check In ขึ้นรถรับส่งหรือขึ้นเรือได้ทันที
10.เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไม่มีความประสงค์หรือนโยบายใดๆ ที่จะกระทำการเพื่อหลอกลวง ทุจริต หรือฉ้อโกงท่านในทุกกรณี หากมีข้อจำกัดทางด้านสภาพคลื่นลมหรือภูมิอากาศ รวมถึงข้อจำกัดทางด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ส่งผลให้ เรือ ไม่สามารถออกทัวร์ได้ ทางเว็บไซต์ยินดีคืนค่าใช้จ่ายซึ่งท่านได้ชำระไว้ล่วงหน้าให้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไข (แต่ในกรณีซึ่งท่านยกเลิกทัวร์ทั้งๆ ที่ เรือยังคงสามารถออกเรือไปทัวร์ได้ตามปกติ หรือท่านไม่มารอรถรับส่ง/เรือ ตามเวลานัดหมาย ทางเว็บไซต์จะไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆ ให้นะครับ)
11.ผู้รับผิดชอบโปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก (เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ) เกาะปอดะ ถ้ำพระนาง : ผู้ประกอบการใบอนุญาตเลขที่ 34/00630 , 33/02698 , 34/01331
หมายเหตุ
รายละเอียดโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพคลื่นลม และสภาวะอากาศ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า
- ราคานี้มีผลวันนี้ - 30 เมษายน 2565 เท่านั้น
โปรโมชั่นทัวร์และบัตรเข้าชมสถานที่/การแสดงอื่นๆ ในเขต จ.กระบี่ ราคาพิเศษ !!
(กรุณาคลิ๊ก “ชื่อโปรแกรมทัวร์/ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว” เพื่อชมภาพถ่ายและข้อมูลต่าง ๆ โดยละเอียด)
|
ประเภทบัตร & โปรแกรมทัวร์ |
ราคา (บาท)
|
1. ทัวร์ทะเลแหวก |
450 - 850 |
2. ทัวร์เกาะห้อง |
690 - 1,290 |
3. ทัวร์เกาะพีพี |
800 - 1,790 |
4. ทัวร์เกาะไหง |
??? - ??? |
5. ทัวร์เกาะรอก |
1,200 - 1,650 |
|