Custom Search
 
ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่ (ดูภาพด้านล่าง)


     อ่าวถ้ำพระนาง : เรื่องเล่าพื้นบ้าน ตำนานเก่าแก่ และนิทานปรัมปรา คือ สิ่งที่อยู่คู่กับมนุษยชาติมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ บ้างก็เจือแฝงไว้ด้วยคติสอนใจ ภูมิปัญญาโบราณ หรือข้อเท็จจริงบางประการซึ่งเกิดขึ้นในอดีต บ้างก็เป็นเพียงเรื่องราวที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน ตลกขบขัน หรือบันเทิงแล้วบอกกล่าวเล่าสู่กันมาปากต่อปาก บ้างก็เป็นกลอุบายอันแยบยลซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เอาไว้ใช้ขู่ กำราบ ปราบความซุกซนของบุตรหลานและลูกบ้านรุ่นเยาว์ที่ไม่รู้จักเกรงกลัวให้เกิดความหวั่นหวาดขยาดแขยงต่อการกระทำผิดต่าง ๆ แต่ไม่ว่าเรื่องราวในครั้งก่อนเก่าเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยแต่งแต้มสีสันและเติมเต็มบรรยากาศอันน่าหลงใหลให้กับสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับตำนานโบราณเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     “ถ้ำพระนาง” ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ คือ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความเกี่ยวพันเนื่องกันกับตำนานโบราณที่กล่าวถึงเรื่องราวของความรัก การหักหลัง ความแค้นและคำสาป

    

อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
น้ำทะเลใส ๆ ในวันที่ฟ้าสดสวย

อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
"เกาะรังนก" ด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนาง และ
แนวเทือกเขาหินปูนสูงชันที่กั้นขวางระหว่างหาดไร่เลย์ตะวันตก - อ่าวถ้ำพระนาง


     เรื่องราวตามตำนานเริ่มต้นขึ้นจาก ครอบครัวตายมดึงต้องการมีลูกจึงไปวิงวอนขอให้พญานาคประทานลูกให้ พญานาคตอบตกลงแต่ก็ตั้งเงื่อนไขว่าหากครอบครัวตายมดึงมีลูกสาวจะต้องให้แต่งงานกับลูกชายของตน กาลต่อมาครอบครัวตายมดึงได้มีลูกสมความปรารถนาเป็นลูกสาวชื่อว่า “นาง” นางเติบโตขึ้นจนเกิดความรักตามประสาหนุ่มสาวกับลูกชายครอบครัวตาวาปราบชื่อว่า “บุญ” ในที่สุดครอบครัวตายมดึงและครอบครัวตาวาปราบจึงจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานให้กับนางและบุญทั้ง ๆ ที่ไม่เต็มใจ เมื่อพญานาคได้ทราบข่าวก็โกรธแค้นที่ครอบครัวตายมดึงไม่รักษาสัญญาที่ว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของตน ในวันงานแต่งงานพญานาคจึงจำแลงกายเป็นมนุษย์เข้าอาละวาดแย่งชิงตัวนาง ฤๅษีซึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ได้ออกมาห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายฤๅษีจึงสาปทุกอย่างให้กลายเป็นหิน เรือนหอกลายเป็น “ถ้ำพระนาง” ข้าวเหนียวกวนกลายเป็น “สุสานหอย” ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ กลายเป็น “เกาะหม้อ” , “เกาะทัพ” และเกาะอื่น ๆในเขตใกล้เคียง ส่วนพญานาคได้กลายเป็น “เขาหางนาค” ในปัจจุบัน

     “ถ้ำพระนาง” เป็นถ้ำตื้น ๆ เล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลปลายชายหาดด้านทิศใต้ของ “อ่าวถ้ำพระนาง(ชื่อคล้ายคลึงกันกับ “อ่าวนาง” แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนละแห่งนะครับ) ภายในถ้ำเป็นที่ตั้งของศาลพระนางซึ่งคนท้องถิ่นนิยมนำศิวลึงค์มาสักการบูชา ตัวโถงถ้ำมีหินงอกหินย้อยให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่สวยงามนัก รอบบริเวณปากถ้ำมีพ่อค้าแม่ค้ากางร่มตั้งซุ้มจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกอยู่หลายร้าน นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมายังอ่าวแห่งนี้นอกจากจะมีโอกาสได้กราบไหว้ บูชา สักการะศาลพระนางแล้วยังจะได้นั่ง – นอนพักผ่อนบนหาดทรายสีขาวแกมน้ำตาลอ่อนที่สวยงาม และได้เล่นน้ำทะเลใสสีเขียวอมฟ้าด้านหน้าชายหาดอีกด้วย (บริเวณชายหาดอ่าวถ้ำพระนางด้านทิศเหนือจะมีความสวยงามมากกว่าชายหาดด้านทิศใต้ซึ่งถูกใช้เป็นจุดจอดเรือหางยาว กรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการเล่นน้ำทะเลแนะนำให้เดินไปยังชายหาดด้านทิศเหนือจะดีกว่า)



ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
"ถ้ำพระนาง" สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับตำนานโบราณเก่าแก่

ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  อ่าวถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
ทิวทัศน์ภายในและภายนอก



     บรรยากาศในช่วงเวลากลางวัน ณ อ่าวถ้ำพระนางแห่งนี้จะคึกคักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วเรือเมล์มาจากสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ,นักท่องเที่ยวที่ซื้อโปรแกรม “ทัวร์ทะเลแหวกหมู่เกาะปอดะอ่าวถ้ำพระนาง” และ นักท่องเที่ยวที่เดินเท้ามาเองจากหาดไร่เลย์ แต่พอถึงช่วงเวลาเย็นเมื่อนักท่องเที่ยวเหล่านี้เริ่มทยอยกันเดินทางกลับสู่ที่พัก บรรยากาศบริเวณอ่าวถ้ำพระนางก็จะกลับเข้าสู่ความสงบงามอีกครั้ง (มีเส้นทางเดินเท้าสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “หาดไร่เลย์ตะวันออก – อ่าวถ้ำพระนาง” อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถ้ำพระนาง และจาก “หาดไร่เลย์ตะวันออก” ยังสามารถเดินต่อไปตามเส้นทางระหว่างรีสอร์ทต่าง ๆ จนถึง “หาดไร่เลย์ตะวันตก” ได้ด้วย กรณีที่หาเส้นทางเดินเท้าสายนี้ไม่เจอให้ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่รีสอร์ทในละแวกนั้นดูครับ)    

     เนื่องจากอ่าวถ้ำพระนางนั้นมีชายหาดซึ่งหันเข้าสู่ทิศตะวันตก ในยามเย็นนักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมอยู่ตามรีสอร์ทต่าง ๆ บริเวณหาดไร่เลย์ – อ่าวถ้ำพระนางจึงสามารถมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกบริเวณด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ได้ และหากนักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาเยือนอ่าวถ้ำพระนางในยามย่ำสนธยาของคืนเดือนมืดที่คลื่นลมทะเลสงบราบเรียบแล้วล่ะก็ นักท่องเที่ยวอาจจะได้พบเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึกที่หาชมได้ยากยิ่ง ณ ท้องทะเลด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ด้วย นั่นก็คือปรากฏการณ์ “พรายน้ำ



ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
เส้นทางเดินเชื่อมต่อระหว่างอ่าวถ้ำพระนาง - หาดไร่เลย์ตะวันออก

ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่  ถ้ำพระนาง อ.เมือง จ.กระบี่
..........หลืบเร้นอันลึกลับซับซ้อน..........



     ปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวโยนก้อนหิน ก้อนกรวด หรือนำร่างกายลงไปสัมผัสกับพื้นผิวน้ำบริเวณด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนางแล้วมีแสงสว่างวาบขึ้นมา ณ จุดสัมผัสชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเลือนหายไป (ปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ซึ่งพบเห็นได้ในค่ำคืนเดือนมืดยามที่ท้องทะเลสงบราบเรียบปราศจากคลื่นลม ณ อ่าวถ้ำพระนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่แห่งนี้ ไม่ได้หมายถึงปรากฏการณ์ของฟองอากาศที่ผุดปุ๋ง ๆ ขึ้นมาจากใต้ผิวน้ำเหมือนที่เราเข้าใจกันอยู่โดยทั่วไปนะครับ) มีนักวิชาการบางคนอธิบายว่าปรากฏการณ์พรายน้ำนี้เกิดขึ้นจาก “แพลงตอน” บางชนิดที่อาศัยอยู่อย่างชุกชุมบริเวณท้องทะเลด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนางได้รับการกระตุ้นโดยแรงสั่นสะเทือนจากวัตถุที่ตกลงไปสัมผัสกับพื้นผิวน้ำแล้วเกิดเรืองแสงขึ้นมา โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นปรากฏการณ์พรายน้ำในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ได้อีกที่บริเวณ “ถ้ำริมทะเลของหมู่เกาะปอดะ[นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะไปชมปรากฏการณ์พรายน้ำ ณ ถ้ำริมทะเลของหมู่เกาะปอดะแนะนำให้เลือกซื้อโปรแกรมทัวร์ “Sunset ทะเลแหวกหมู่เกาะปอดะ” ผ่านทางเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) เนื่องจากโปรแกรมทัวร์นี้มีข้อดี คือ ถึงแม้จะเป็นช่วงค่ำคืนเดือนหงายก็ยังสามารถมองเห็นพรายน้ำได้เพราะเงาของโถงถ้ำจะช่วยกำบังแสงจันทร์เอาไว้ไม่ให้สาดส่องลงมาถึงพื้นผิวน้ำ นอกจากนั้นบริเวณถ้ำริมทะเลของหมู่เกาะปอดะยังมีพรายน้ำเกิดขึ้นอย่างชัดเจนและสวยงามยิ่งกว่าบริเวณอ่าวถ้ำพระนางอีกด้วย]

     แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วอาจจะไม่มีใครทราบได้เลยว่าเรื่องราวของ “ตำนานถ้ำพระนาง” นั้นมีต้นกำเนิดเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอันใด แต่วิถีแห่งความเชื่อ – ความศรัทธาของผองคนซึ่งเจือผสมปะปนไปกับความงดงามตามธรรมชาติและปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” อันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในยามย่ำสนธยา ก็ได้กลายเป็นดั่งเสน่ห์มนตราอันน่าหลงใหลที่ทำให้ “อ่าวถ้ำพระนาง” แห่งนี้จะยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่อย่างไม่รู้หน่ายต่อไปอีกตราบนาน.....เท่านาน


ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง : ที่พักอ่าวไร่เลย์ – ถ้ำพระนาง , โปรแกรมทัวร์ทะเลแหวก ,
โปรแกรมทัวร์เกาะปอดะยามเย็น ชมพรายน้ำ
, หาดไร่เลย์ , อ่าวนาง


การเดินทาง : ซื้อตั๋วเรือเดินทางเอง มีเรือเมล์ (เรือหางยาว) จาก “ท่าเรืออ่าวนาง” ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลาเวลาประมาณ 8.00 – 8.30 น. ถึงไม่เกิน 17.30 – 18.00 น. (ไม่มีทางรถยนต์/จักรยานยนต์เข้าถึงอ่าวถ้ำพระนางได้) ราคาตั๋วเรือคนละ 80 บาท/เที่ยว โดยต้องรอให้มีนักท่องเที่ยวซื้อตั๋วเรือครบ 7 คนก่อนเรือจึงจะออก (กรุณาตรวจสอบราคาตั๋วเรือปัจจุบันกับสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนางอีกครั้งครับ) ซื้อโปรแกรมทัวร์ล่วงหน้า แนะนำให้เลือกซื้อโปรแกรมทัวร์ 4 เกาะ “ทะเลแหวก(เกาะไก่ – เกาะทัพ – เกาะหม้อ) + เกาะปอดะ + แวะเล่นน้ำอ่าวถ้ำพระนาง” จะคุ้มค่ากว่าการซื้อตั๋วเรือเที่ยวเองพอสมควร

โทรศัพท์ติดต่อสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง : (075) 695 – 313 ,(075) 661 – 131

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม: สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีทุกช่วงฤดูกาล แต่ในช่วงฤดูฝนควรใช้ความระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเลเนื่องจากคลื่นลมแรงและมีแมงกะพรุนชุกชุม
ขอขอบคุณ : ข้อมูลตำนานถ้ำพระนางจาก “คุณปราณี” เจ้าหน้าที่ อบต.อ่าวนาง และข้อมูลพรายน้ำจาก “คุณขวัญ” ผู้ประสานงาน “โปรแกรมทัวร์ 4 เกาะ” และ “โปรแกรมทัวร์ Sunset ทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะ”
หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล “อ่าวถ้ำพระนาง” เมื่อต้นเดือน พ.ค. 2553



 


แผนผังเว็บไซต์ (Site Map)


บทความและภาพทุกภาพภายในเว็บไซต์หน้านี้เป็นลิขสิทธิ์ของท่องเที่ยวดอทคอม
(www.Thongteaw.com)
หากผู้ใดทำการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไขหรือนำไปใช้ในกรณีใด ๆ
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางทีมงาน
จะถูกดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด


Copy right © Since 2008 by Thongteaw.com - All Rights Reserved
เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็คโทรนิคส์ 3102201494154