หมู่เกาะสิมิลัน

     หมู่เกาะสิมิลัน เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลของประเทศไทยซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปถึงระดับโลก ด้วยลักษณะของน้ำทะเลสีฟ้าใสที่สวยงามราวกับสีของพลอยไพลิน หาดทรายสีขาวบริสุทธิ์เนื้อเนียนละเอียดนุ่มดุจดั่งผงแป้งฝุ่น แนวปะการังน้ำลึกซึ่งยังคงมีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอยู่ในระดับสูง ได้ทำให้เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง www.guardian.co.uk เคยจัดอันดับให้ “หมู่เกาะสิมิลัน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา” และ “หมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา” เป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดอันดับ 9 ของโลก และนอกจาก www.guardian.co.uk ก็ยังมีเว็บไซต์อีกหลายๆ แห่งที่เคยยกย่องให้หมู่เกาะสิมิลันมีรายชื่อติดอยู่ใน 10 อันดับแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของโลกด้วย อาทิเช่น www.diveguidebook.com, www.essentialtravel.co.uk, www.nomadicmatt.com เป็นต้น

.........................หินเรือใบ กับ น้ำทะเลใส.....ณ เกาะสิมิลัน (เกาะแปด).........................

...............Speed Boat คือพาหนะสำคัญในการเดินทางสู่หมู่เกาะสิมิลัน...............

     อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน : ไพลินแห่งประเทศไทย

     ลักษณะน้ำทะเลสีฟ้าใสของหมู่เกาะสิมิลันนั้นถือเป็นเอกลักษณ์ที่แทบจะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลใดๆ ในประเทศไทยเหมือน นักวิชาการได้เคยวิเคราะห์เอาไว้ว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลโดยรอบบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันมีสีฟ้าค่อนข้างเข้มราวกับสีของพลอยไพลิน แต่ก็ยังคงความใสจนสามารถมองเห็นทะลุลงไปถึงผืนทรายใต้ท้องทะเลซึ่งอยู่ลึกจากผิวน้ำหลายเมตรได้อย่างชัดเจนนั้น น่าจะเป็นเพราะน้ำทะเลในบริเวณหมู่เกาะสิมิลันมีตะกอนและสิ่งเจือปนแขวนลอยต่างๆ น้อยกว่าท้องทะเลในแถบอื่นๆ ของประเทศไทย อีกทั้งยังอาจจะมีสาเหตุจากแพลงก์ตอนเฉพาะถิ่นบางชนิดซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดกลืนแสงสีชนิดต่างๆ แล้วสะท้อนเฉพาะแสงสีฟ้าออกมามากกว่าสีอื่นๆ ด้วย

...............ปะการังวงแหวนซึ่งก่อตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มปะการังเขากวางจิ๋ว...............

.........................ปะการังโต๊ะรุ่นใหม่ใต้ท้องทะเล.........................

     อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศให้จัดตั้งขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 43 ของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2525 .....ในครั้งนั้น.....อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันยังคงมีจำนวนเกาะในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบเพียงแค่ 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหนึ่ง (เกาะหูยง), เกาะสอง (เกาะปาหยัง), เกาะสาม (เกาะปาหยัน), เกาะสี่ (เกาะเมียง), เกาะห้า, เกาะหก, เกาะเจ็ด (เกาะปายู), เกาะแปด (เกาะสิมิลัน) และเกาะเก้า (เกาะบางู) ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 จึงมีการผนวกพื้นที่ของ “เกาะบอน” และ “เกาะตาชัย” เข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร (ราว 87,000 ไร่) และมีจำนวนเกาะในความรับผิดชอบรวม 11 เกาะ

...................................แรงกระเพื่อม...................................

...............สีน้ำทะเลที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ราวกับพลอยไพลินของหมู่เกาะสิมิลัน...............

     คำว่า “สิมิลัน” เป็นคำในภาษายาวีมีความหมายถึงจำนวน “9” สืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งอดีต.....ชาวเรือที่เดินทางผ่านไปมาในละแวกหมู่เกาะแห่งนี้สามารถนับจำนวนเกาะซึ่งเรียงตัวอยู่ใกล้ๆ กันได้ทั้งหมด 9 เกาะ พวกเขาจึงขนานนามหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “หมู่เกาะสิมิลัน” .....อย่างไรก็ดี.....บางคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าหาก “สิมิลัน” แปลว่า “9” แล้วทำไมจึงมีการเรียก “เกาะแปด” ว่า “เกาะสิมิลัน” ล่ะ ? สำหรับคำตอบต่อคำถามข้อนี้สามารถอธิบายได้คือ “เกาะแปด” เป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาเกาะทั้งหมดของหมู่เกาะสิมิลัน นอกจากนี้ทางราชการก็ยังได้ส่งทีมงานสำรวจหมู่เกาะเข้ามาลงที่เกาะแปดเป็นแห่งแรก.....ด้วยเหตุผลดังกล่าว “เกาะแปด” จึงถูกตั้งชื่อว่า “เกาะสิมิลัน” ในฐานะพี่ใหญ่และตัวแทนของหมู่เกาะนั่นเอง

..........นี่คือ สถานที่ซึ่งเคยได้รับการจัดลำดับให้เป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดอันดับ 9 ของโลก..........

.........................ทุ่นแบ่งแนวเขตเล่นน้ำ - เขตเรือเข้าออก.........................

     .....ตามปกติ.....อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะมีการปิดเกาะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างแรมหรือเข้ามาดำน้ำในเขตพื้นที่อุทยานฯ ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ราวกลางเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนตุลาคมของทุกๆ ปี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดจากมหาสมุทรอินเดียผ่านเข้าสู่ฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันมีคลื่นลมแรง ฝนตกชุก น้ำทะเลขุ่น อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทั้งชาวเรือและนักท่องเที่ยว

...................................จุดถ่ายภาพยอดนิยม...................................

...................................ทางลงสู่ชายหาดเกาะแปด...................................

     เมื่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อ่อนกำลังลงในช่วงกลางเดือนตุลาคม คลื่นลมทางฝั่งทะเลอันดามันก็จะเริ่มสงบ ฝุ่นผงทรายที่เคยฟุ้งแขวนลอยอยู่ภายในน้ำจะค่อยๆ ตกตะกอนลงสู่ก้นทะเลเบื้องล่าง น้ำทะเลซึ่งเคยขุ่นจะเริ่มกลับมาใสสวยงามอีกครั้ง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันก็จะกลับมาเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกคราวตั้งแต่ราวกลางเดือนตุลาคมไปจนกระทั่งถึงกลางเดือนพฤษภาคม เป็นวัฏจักรที่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกลับมาเยือนดังเช่นเดิมในทุกๆ ปี (นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบช่วงเวลาเปิด – ปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันที่แน่นอน พร้อมทั้งติดต่อจอง “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน” ได้จาก “หมายเลขโทรศัพท์” หรือ “LINE ID” ในกรอบสีขาวทางด้านล่างตารางราคาโปรโมชั่นทัวร์ท้ายบทความชิ้นนี้ครับ)

...................................เวลาของสองเรา...................................

...................................รอคนพาย...................................

     .....ทุกวันนี้.....นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้อย่างสะดวกสบายด้วยเรือ Speedboat โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากท่าเรือบริเวณชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ไปจนกระทั่งถึงหมู่เกาะสิมิลันประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและคลื่นลม (หากท้องทะเลเรียบเรือจะแล่นได้เร็ว แต่ถ้าท้องทะเลมีคลื่นลมเรือก็จะแล่นได้ช้าลงครับ) .....อย่างไรก็ดี.....ปัจจุบันยังไม่มี Speedboat ซึ่งวิ่งให้บริการในลักษณะของเรือเมล์ นักท่องเที่ยวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน” แบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น (.....โดยปกติ.....ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันจะมีรูปแบบที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้อยู่ 3 – 4 แบบ เช่น ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ, ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิดที่สามารถค้างอยู่บนเกาะกี่วันก็ได้จนกว่าจะถึงกำหนดปิดอุทยานฯ, ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบ 3 วัน 2 คืน เป็นต้น.....ทั้งนี้.....ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมจะได้กล่าวถึงโปรแกรมทัวร์แต่ละแบบโดยละเอียดอีกครั้งในหัวข้อ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน : ทัวร์ต้องห้ามพลาดที่เปิดให้บริการเพียงแค่ 6 – 7 เดือน/ปี” ทางด้านล่างครับ)

...................................Welcome to my world...................................

...................................Only Lonely...................................

     รู้จักกับเกาะทั้ง 11 ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

     .....อย่างไรก็ดี.....ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบใดๆ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) คิดว่าน่าจะเป็นการดีกว่าหากคุณได้มีโอกาสทำความรู้จักกับข้อมูลของสถานที่สำคัญๆ และสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ โดยรอบหมู่เกาะแห่งนี้อย่างถ้วนทั่ว เพราะหลายๆ ครั้งการเลือกประเภทของทัวร์ซึ่งไม่เหมือนกันก็อาจทำให้ประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะได้รับผิดแผกแตกต่างกันไปเป็นอย่างมาก (ยกตัวอย่างเช่น หากนักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ” ก็ยากที่จะมีโอกาสขึ้นไปถึง “จุดชมทิวทัศน์ลานข้าหลวง” และจะไม่มีโอกาสได้ไปยัง “จุดชมพระอาทิตย์ตกเกาะเมียง”.....แตกต่างจากผู้ซึ่งใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” หรือ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” อย่างชัดเจนครับ)

.........................ผีเสื้อพุ่มไม้สีน้ำตาล.........................

....................ดอกจิกทะเลบนผืนทรายสีขาวบริสุทธิ์....................

     ข้อควรรู้ประการหนึ่งก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยือนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ก็คือ อุทยานแห่งนี้จะเปิดอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักค้างแรม ดำน้ำ และทำกิจกรรมรอบเกาะต่างๆ ได้เพียงแค่ 6 – 7 เกาะ จากจำนวนเกาะทั้งหมด 11 เกาะ เพื่อสงวนพื้นที่บางส่วนในเขตอุทยานฯ เอาไว้เป็นเขตอนุรักษ์ .....ปัจจุบัน.....มีเกาะซึ่งทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม ได้แก่ เกาะเก้า (เกาะบางู), เกาะแปด (เกาะสิมิลัน), เกาะเจ็ด (เกาะปายู), เกาะหก, เกาะห้า และเกาสี่ (เกาะเมียง) โดยจะมีเกาะซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นพักค้างแรมได้เพียงแค่ 2 เกาะ คือ “เกาะแปด (เกาะสิมิลัน)” และ “เกาะสี่ (เกาะเมียง)” ส่วนเกาะที่ยังไม่เคยเปิดอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าเยี่ยมชมเลย ได้แก่ เกาะสาม (เกาะปาหยัน), เกาะสอง (เกาะปาหยัง), เกาะหนึ่ง (เกาะหูยง) และเกาะบอน

.............................................Blue Ocean.............................................

........................................Behind the scene........................................

     สำหรับ “เกาะตาชัย” นั้นถึงแม้ว่าทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะเคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าดำน้ำตื้นและขึ้นเยี่ยมชมพื้นที่ต่างๆ บนเกาะได้อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการังและปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของชายหาดที่เปลี่ยนแปลงไปจากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่มากมายจนล้น ส่งผลให้ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันตัดสินใจประกาศปิดเกาะตาชัยอย่างไม่มีกำหนดเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา (ในอนาคตอาจมีการเปิดเกาะตาชัยให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้อีกครั้งหรืออาจไม่มีการเปิดเกาะตาชัยอีกเลยก็เป็นไปได้.....นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข่าวสารการเปิดเกาะตาชัยได้จาก “หมายเลขโทรศัพท่” หรือ “LINE ID” ในกรอบสีขาวทางด้านล่างตารางราคาโปรโมชั่นทัวร์หมู่เกาะสิมิลันท้ายบทความชิ้นนี้ครับ)

การเดินทางมาที่นี่มีทางเลือกเดียวคือต้องใช้บริการ ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน เท่านั้น (กรุณาตรวจสอบราคาทัวร์หมู่เกาะสิมิลันประเภทต่าง ๆ ได้จากตารางทางด้านล่างบทความครับ)

...................................หมู่เรือหลากชนิด...................................

     ในบทความช่วงถัดไปเราจะมาทำความรู้จักกับเกาะทั้ง 11 แห่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันพร้อมๆ กัน

     1. เกาะบางู (เกาะเก้า) : หากไม่นับ “เกาะบอน” และ “เกาะตาชัย” เกาะบางูจะเป็นเกาะซึ่งตั้งอยู่สุดปลายด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน โดยปกติผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสิมิลันจะนำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้น (Snorkeling) บริเวณอ่าวทางด้านทิศใต้ของเกาะบางูซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สามารถพบเห็นเต่าทะเลตัวเป็นๆ ได้อยู่เสมอ (ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมเคยมีโอกาสได้เจอเต่าทะเลขณะดำน้ำตื้นในบริเวณนี้มาแล้วจริงๆ ครับ)

...................................เหล่าผู้เดินทาง...................................

...............เกาะบางู (เกาะเก้า) เมื่อมองจาก จุดชมทิวทัศน์หินเรือใบ...............

     .....ถ้าโชคดี..... บางครั้งในขณะที่กำลังดำน้ำตื้นอยู่บริเวณอ่าวทางด้านทิศใต้ของเกาะบางู นักท่องเที่ยวอาจได้พบเจอกับฝูงปลามงตัวขนาดประมาณ 20 – 30 ซม. ฝูงใหญ่นับได้หลายร้อยตัว (คนท้องถิ่นบางคนอาจเรียกว่า “ปลากะมง” หรือ “ปลาม่ง” ก็ได้ครับ) ขณะที่ฝูงปลาสีเงินนี้ว่ายวนไปเวียนมาอยู่ในท้องทะเลนั้นแลดูสวยงามราวกับว่าพวกมันกำลังร่วมกันแปรอักษรใต้น้ำเลยทีเดียว .....หากคุณมีโอกาสทำได้.....แนะนำว่าให้ลองว่ายน้ำช้าๆ แล้วไปลอยตัวนิ่งๆอยู่เหนือฝูงปลามง บางคราวพวกมันอาจจะจับกลุ่มว่ายวนเป็นลักษณะวงแหวนอยู่ใต้จุดที่คุณกำลังลอยตัวอยู่พอดี

..............................ปลาผีเสื้อว่ายเคียงคู่กัน..............................

.........................เดาว่าเจ้าสองตัวนี้คือ.....ปลามง.........................

     ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะบางูมีกองหินพ้นน้ำซึ่งเป็นจุดดำน้ำลึก (Scuba Diving) ที่สวยงามและมีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของหมู่เกาสิมิลันเรียกว่า “คริสมาสต์พ้อยต์ (Christmas Point)” ณ ความลึกที่ระดับ 12 – 30 เมตรของจุดดำน้ำแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นปะการังอ่อนและกัลปังหาขนาดใหญ่ ส่วนถ้าเป็นจุดดำน้ำทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะบางูก็จะพบแนวปะการังแข็งและปลาไหลสวนอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ บนผืนทรายใต้ทะเล (“ปลาไหลสวน” เป็นสัตว์น้ำหายากประเภทหนึ่ง ถ้ามีโอกาสได้เห็นในท้องทะเลตามธรรมชาติก็ถือว่าโชคดีพอสมควรเลยครับ)

.........................ปูหนุมานบนโขดหิน.........................

ตามปกติ.....อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม ทะเลใสๆ สวยๆ แบบนี้ได้ตั้งแต่ราวกลางเดือนตุลาคม - กลางเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี

     2. เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) : เป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมีอ่าวสวยขนาดใหญ่ที่โค้งเว้าลึกเข้าไปในผืนแผ่นดินจนมีลักษณะคล้ายกับเกือกม้า ผู้คนจึงพากันเรียกชื่ออ่าวแห่งนี้ว่า “อ่าวเกือกม้า” หรือ “อ่าวเกือก”.....บริเวณอ่าวเกือกเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.2 (เกาะสิมิลัน) ซึ่งมีทั้งเครื่องนอนและเต็นท์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่อยากจะพักค้างแรมบนเกาะ อีกทั้งยังมีห้องอาบน้ำ ห้องสุขา ร้านค้าและร้านอาหารสวัสดิการของอุทยานฯ อยู่พร้อมสรรพ

..........อ่าวเกือกม้า คือ ที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.2 (เกาะสิมิลัน)..........

....................Scenic view from Sailing Rock View Point....................

     อ่าวเกือก เป็นอ่าวซึ่งมีชายหาดที่สวยงาม เนื้อทรายเป็นสีขาวบริสุทธิ์เนียนนุ่มเท้าแทบไม่ต่างไปจากสัมผัสของผงแป้งฝุ่น มีต้นผักบุ้งทะเลใบเขียวๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วแนวชายหาด ในยามเช้าซึ่งมีไอแดดจางๆ ดอกของต้นผักบุ้งทะเลเหล่านี้จะบานสะพรั่งเป็นสีม่วงอ่อนแล้วหรี่หลุบหุบลงเมื่อดวงตะวันแผดแสงแรงกล้าในยามสาย หากคลื่นลมสงบน้ำทะเลด้านหน้าหาดทรายจะเป็นสีฟ้าอ่อนใสงดงามราวกับกระจก ใต้ท้องทะเลโดยรอบบริเวณอ่าวเกือกมีแนวปะการังที่เคยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อเดือน ธ.ค. 2547 และยังฟื้นตัวได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก ถึงกระนั้นนักท่องเที่ยวซึ่งลงดำน้ำตื้นในบริเวณนี้ก็ยังสามารถพบเห็นปลาหลากหลายชนิดได้ง่ายๆ อาทิเช่น ปลาทราย, ปลาสลิดหินบั้งเหลือง, ปลานกแก้ว, ปลาโนรีครีบยาว, ปลาตาเดียว, ฯลฯ

นี่คือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขอแนะนำว่า แฟนพันธุ์แท้ประเทศไทยต้องลองหาโอกาสมาเยือนอย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง

...................................Skyline...................................

     .....โขดหินขนาดใหญ่ยักษ์มหึมา.....ถือได้ว่าเป็นภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของหมู่เกาะสิมิลัน และบนแนวภูผาทางด้านทิศเหนือของอ่าวเกือกก็มีหินก้อนใหญ่ยักษ์ก้อนหนึ่งซึ่งเมื่อมองจากระยะไกลแล้วจะเห็นมีลักษณะคล้ายกับ “ใบรับลมของเรือ” ส่งผลให้ชาวเรือเมื่อครั้งอดีตขนานนามแนวหินดังกล่าวข้างต้นว่า “หินเรือใบ (Sailing Rock)”.....ทุกวันนี้.....หินเรือใบได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลันที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวคนไหนๆ ก็มักจะต้องการถ่ายรูปคู่กับหินก้อนดังกล่าวเพื่อเอาไปอวดเพื่อนพ้องน้องพี่หรือครอบครัวอยู่เสมอ

...............หินเรือใบ คือ หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของ หมู่เกาะสิมิลัน...............

..................................Sapphire Sea..................................

     .....ปัจจุบัน.....ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้จัดทำทางเดินจากอ่าวเกือกขึ้นไปยัง “จุดชมทิวทัศน์หินเรือใบ” เสร็จเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางดิน ขึ้นบันไดลัดเลาะไปตามแนวโขดหิน แล้วข้ามสะพานไม้สั้นๆ ไปจนถึงลานหินเล็กๆ บริเวณฐานของหินเรือใบได้ภายในระยะเวลาประมาณ 10 – 15 นาที.....ณ จุดนี้.....หากนักท่องเที่ยวลองมองไปทางด้านทิศเหนือก็จะเห็น “เกาะบางู (เกาะเก้า)” จากมุมสูงได้ทั่วทั้งเกาะ และถ้าลองมองลงมาทางด้านทิศใต้ก็จะเห็นท้องทะเลสีฟ้าสดใสบริเวณอ่าวเกือกได้ทั่วทั้งอ่าว

บน จุดชมทิวทัศน์หินเรือใบ สามารถมองลงไปเห็น อ่าวเกือกม้า ได้สวยๆ แบบนี้เลย !

...................................ถ่ายภาพเกาะบางู (เกาะเก้า)...................................

     ถ้านักท่องเที่ยวมีโอกาสได้พักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) แล้วอยากจะถ่ายภาพหรือถ่าย Clip บรรยากาศขณะพระอาทิตย์ตกสวยๆ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมก็มีตำแหน่งถ่ายภาพแนะนำอยู่ 2 จุดหลัก ได้แก่ บริเวณ “ด้านหน้าชายหาดอ่าวเกือก” และบน “จุดชมทิวทัศน์หินเรือใบ” สำหรับจุดถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าชายหาดอ่าวเกือกนั้นหากวันใดมี Speedboat เรือทัวร์ขนาดใหญ่ เรือยอร์ช หรือเรือดำน้ำลึกมาจอดลอยลำอยู่มาก ก็อาจทำให้มองเห็นพระอาทิตย์ตกลงบนเส้นขอบฟ้าได้ไม่ชัดเจนหรืออาจจะหามุมสวยๆ ได้ลำบาก (เพราะมีเงาเรือหลายลำบดบังอยู่ครับ) แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกจากบนจุดชมทิวทัศน์หินเรือใบก็จะสามารถหามุมดีๆ ได้ง่ายกว่ามาก

........................ถึงคราวต้องจากลา........................

........................ได้เพลาเดินทางกลับ........................

     นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะพักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ในปัจจุบันจะมีทางเลือกเพียงแค่อย่างเดียว คือ ต้องใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด (Similan Islands Tour : Opened Day Trip)” เท่านั้น เพราะโปรแกรมทัวร์ดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้เราเลือกได้ว่าต้องการจะพักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) หรือเกาะเมียง (เกาะสี่) โดยนักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องจองที่พักของอุทยานฯ มาล่วงหน้าด้วยตนเอง (สามารถจองที่พักอุทยานฯ ได้ที่เว็บไซต์ nps.dnp.go.th ครับ) และผู้ประกอบการทัวร์ก็จะไม่มีการจัดหาอาหารหรือน้ำดื่มใดๆ ให้ระหว่างที่นักท่องเที่ยวพักค้างแรมอยู่บนเกาะ แต่มีข้อดีกล่าวคือ นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างแรมอยู่บนเกาะกี่วันก็ได้จนกว่าจะถึงช่วงฤดูปิดอุทยานฯ.....ในขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน (Similan Islands Tour : Overnight Trip)” ที่มีให้เลือกทั้ง “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบ 2 วัน 1 คืน” หรือ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบ 3 วัน 2 คืน” จะได้รับการดูแลในส่วนของการจองที่พัก อีกทั้งยังมีอาหารและน้ำดื่มบริการให้ทุกๆ มื้อ แต่นักท่องเที่ยวก็จำเป็นจะต้องพักค้างแรมอยู่บนเกาะเมียง (เกาะสี่) และไม่มีโอกาสเลือกพักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) เพื่อให้ผู้ประกอบการทัวร์สามารถบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างสะดวก

........................On Stranger Tides........................

........................ดวงอาทิตย์อัสดง........................

     คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกพักค้างแรมอยู่บนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) โดยเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด (Similan Islands Tour : Opened Day Trip)” หากไม่ได้พกพาอาหารสำเร็จรูปหรือน้ำดื่มจากฝั่งแผ่นดินใหญ่มาเองตั้งแต่แรก ก็จำเป็นจะต้องมาซื้อหาเอาจากร้านค้าสวัสดิการซึ่งราคาอาหารและน้ำดื่มในร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันนั้นจะสูงกว่าบนฝั่งมาก ยกตัวอย่างเช่น ข้าวไข่เจียวจานละ 80 บาท ข้าวผัดกระเพราไก่จานละ 120 บาท ข้าวราดผัดผักรวมจานละ 120 บาท น้ำดื่มปริมาตร 600 cc.ขวดละ 30 บาท เป็นต้น (ราคาตัวอย่างข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นได้อีก กรุณาตรวจสอบราคาปัจจุบันกับทางร้านค้าสวัสดิการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันโดยตรงอีกครั้งครับ) เพราะฉะนั้นหากนักท่องเที่ยววางแผนที่จะมาค้างแรมบนเกาะหลายๆ คืน.....ก็ต้องไม่ลืมตระเตรียมเงินงบประมาณสำหรับดำรงชีพมาให้เพียงพอด้วย

..................................แสงทอง..................................

........................สะพานข้ามช่องแคบ........................

     กรณีที่คุณมีโอกาสได้พักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) แล้วรู้สึกว่า แค่การชมดวงอาทิตย์อัสดงในยามเย็นมันยังไม่สามารถเติมเต็มความรู้สึก Romantic ในหัวใจได้อย่างเพียงพอ ขอแนะนำให้รีบถ่างหนังตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ก่อนฟ้าสางแล้วออกเดินเท้ามุ่งหน้าข้ามเนินเขาไปยังอ่าวเล็กๆ ทางด้านทิศตะวันออก (ฝั่งตรงข้ามอ่าวเกือก) เพื่อรอชมแสงแรกของดวงอาทิตย์ยามอรุณรุ่ง โดยปกติการเดินไปยังอ่าวเล็กๆ แห่งนี้จะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที แต่นักท่องเที่ยวควรสวมใส่รองเท้าและใช้ความระมัดระวังในการเดินให้ดีๆ เพราะบางช่วงของเส้นทางจะมีเศษวัสดุแหลมคมบางอย่างตกหล่นกระจัดกระจายอยู่ (ควรสอบถามเส้นทางเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ บนเกาะสิมิลันเอาไว้ล่วงหน้าหรือลองเดินไปสำรวจเส้นทางก่อนอย่างน้อยหนึ่งวัน เพื่อให้สามารถเดินไปตามทางซึ่งมีแสงสลัวๆ ยามเช้าได้โดยไม่หลง แนะนำให้ใช้เสาสัญญาณโทรศัพท์เป็นจุดสังเกตแล้วเดินผ่านรั้วเหล็กที่เปิดอยู่ข้ามเนินเขาไปไม่ไกลก็จะถึง.....การเดินไปสำรวจจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นของเกาะสิมิลันล่วงหน้าหนึ่งวันยังมีข้อดี กล่าวคือ ถ้ารั้วเหล็กใส่กุญแจปิดตายอยู่คุณก็จะได้ไม่ต้องแหวกหนังตาตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ)

........................เคลื่อนคล้อยลอยลงต่ำ........................

..................................ปริ่มน้ำ..................................

     เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าหากนักท่องเที่ยวเลือกพักค้างแรมอยู่บนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ก็ย่อมจะมีเวลาเอ้อระเหยหรือปล่อยอารมณ์ดื่มด่ำไปกับความงดงามของธรรมชาติรอบกายได้นานกว่าผู้ซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ (Similan Islands Tour : One Day Trip)” อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเวลาที่มีอยู่มากมายนั้นเริ่มทำให้คุณรู้สึกว่างจนเบื่อก็อาจขอให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ช่วยเดินนำทางจากอ่าวเกือกไปยัง “อ่าวงวงช้าง” ซึ่งเป็นอ่าวสวยอีกแห่งหนึ่งทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ก็ได้

...............หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวนที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน...............

........................ประกายสะท้อน........................

     อ่าวงวงช้าง เป็นอ่าวทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ที่มีความยาวของชายหาดมากที่สุดบนเกาะแห่งนี้ ลักษณะหาดทรายเป็นสีขาวสะอาด น้ำทะเลเป็นสีไพลิน งดงามในระดับเดียวกันกับอ่าวเกือก เดิมทีแนวชายหาดบริเวณอ่าวงวงช้างเคยถูกสงวนเอาไว้เพื่อใช้เป็นพื้นที่วางไข่สำหรับเต่าทะเล แต่ในปี พ.ศ. 2558 ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันกลับเปิดอนุญาตให้เรือทัวร์จากบริษัทเอกชนต่างๆ พานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนหาดทรายของอ่าวงวงช้างได้ด้วยข้ออ้างว่า เป็นการช่วยผ่อนคลายความแออัดของนักท่องเที่ยวจำนวนมากซึ่งเดินทางมาเยือนหมู่เกาะสิมิลันไม่ให้ไปกระจุกตัวรวมกันอยู่เพียงแค่ที่ใดที่หนึ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านจากนักวิชาการและนักอนุรักษ์ จนกระทั่งทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันต้องหันกลับมาทบทวนนโยบายการเปิดอ่าวงวงช้างและต้องออกคำสั่งปิดอ่าวไม่อนุญาตให้เรือทัวร์ใดๆ เข้าเทียบชายหาดเหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมาเสมอในอดีต.....ทางเลือกในการเข้าถึงอ่าวงวงช้างจึงเหลือเพียงแค่การเดินเท้าจากอ่าวเกือกไปเท่านั้น

........................แสงแดงแรงฤทธิ์........................

........................ดวงจันทร์วันเพ็ญ........................

     เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวเกือก – อ่าวงวงช้าง เป็นเส้นทางเดินขึ้นลงเขาระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร เกือบตลอดเส้นทางมีลักษณะเป็นป่ารกชัฏจึงจำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันเป็นผู้นำทาง และถึงแม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมเดินทางไปด้วยก็ยังต้องใช้เวลาอีกราว 1.5 – 2 ชม.กว่าจะเดินข้ามภูเขาไปถึงชายหาด ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวคนไหนนิยมเดินจากอ่าวเกือกไปยังอ่าวงวงช้างสักเท่าไหร่.....อย่างไรก็ดี.....หากนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฯ ให้ช่วยเดินนำทางไปกลับอ่าวงวงช้างได้ แนะนำว่าให้ลองเฝ้าสังเกตสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ระหว่างทางดูสักหน่อย เพราะบางครั้งอาจจะได้พบเห็น “หอยมรกต” หอยทากพันธุ์ใหม่ของโลกซึ่งถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวไทย ! (เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันเป็นผู้ให้ข้อมูลกับพวกเราว่า “หอยมรกต” มักจะถูกพบเห็นได้ง่ายในช่วงฤดูฝนซึ่งตรงกันกับช่วงระยะเวลาปิดเกาะของทุกๆ ปี เพราะฉะนั้นหากนักท่องเที่ยวคนไหนมีโอกาสได้ยลโฉม “หอยมรกต” ในช่วงเวลาเปิดเกาะตามปกติก็ถือว่าโชคดีมากๆ เลยครับ)

........................หลากมุม ณ หมู่เกาะสิมิลัน........................

.................................@ Similan Island..................................

     โดยรอบเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) นอกจากจะมีอ่าวสวยๆ อย่าง “อ่าวเกือก” และ “อ่าวงวงช้าง” แล้วก็ยังมีจุดดำน้ำตื้น (Snorkeling) และดำน้ำลึก (Scuba diving) ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิเช่น

     อ่าวกวางเอน อ่าวเล็กๆ ทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ซึ่งประกอบไปด้วยแนวปะการังแข็งแบบต่างๆ และมีแนวปะการังแปรงล้างขวดที่หาชมได้ยากก่อตัวอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถสนุกกันได้ทั้งการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก

     แหลมประภาคาร เป็นจุดดำน้ำลึกทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ประกอบไปด้วยกองหิน 2 กอง ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังอ่อนและกัลปังหานานาชนิดเจริญปกคลุม

...............ขอบอกว่าเนี่ยทะเลหมู่เกาะสิมิลัน.....ไม่ใช่สระน้ำนะจ๊ะ...............

........................ว่ายกบกลางผืนน้ำใส........................

     Beacon Point ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) สามารถดำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกลงไปจนถึงระดับ 30 เมตรใต้ผิวน้ำ กล่าวกันว่านี่คือจุดดำน้ำที่สามารถพบเห็นฉลามหรือปลากระเบนได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

     Fantasy Reef จุดดำน้ำลึกทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) มีลักษณะเป็นกองหิน 3 กองซึ่งเป็นแหล่งรวมสัตว์ทะเลแทบทุกชนิดในเขตน่านน้ำของหมู่เกาะสิมิลัน ไม่ว่าจะเป็นปลาไหลริบบิ้นสีฟ้า ปลาบู่สีเพลิง กุ้งหลากหลายชนิด

     โดยปกติถ้านักท่องเที่ยวไม่ได้เลือกใช้บริการ “ทัวร์ดำน้ำลึกหมู่เกาะสิมิลัน (Similan Islands Tour : Scuba Diving Trip)” ก็ยากที่จะมีโอกาสได้มาเยือนจุดดำน้ำต่างๆ ดังข้างต้นเหล่านี้

..............ร้านค้าสวัสดิการบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด).............

..................................ป้ายบอกทาง..................................

     3. เกาะปายู (เกาะเจ็ด) : เป็นเกาะซึ่งมีชายหาดสวยอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก แต่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะไม่อนุญาตให้เรือทัวร์ลำใดๆ พานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังชายหาด.....อย่างไรก็ดี.....นักท่องเที่ยวจะยังสามารถลงดำน้ำตื้น ณ จุดดำน้ำทางด้านทิศตะวันออกของเกาะปายูที่เรียกว่า East of Eden ซึ่งมีระดับความลึกของแนวปะการังจากผิวน้ำประมาณตั้งแต่ 5 – 40 เมตรได้ สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่พบในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปะการังแผ่นเปลวไฟสีฟ้า อาจพบเห็นปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ฟองน้ำ และปลากบได้บ้าง (มัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสิมิลันจะเป็นผู้เลือกตำแหน่งในการดำน้ำให้เหมาะสมกับลักษณะของโปรแกรมทัวร์ที่นักท่องเที่ยวเลือกมา กล่าวคือ ถ้าเป็นทัวร์ดำน้ำตื้น.....มัคคุเทศก์ก็จะพาไปยังบริเวณแนวปะการังน้ำตื้น แต่หากเป็นทัวร์ดำน้ำลึก.....มัคคุเทศก์ก็จะพาไปยังบริเวณแนวปะการังน้ำลึกครับ)

........................ร่องรอยของเรือแล่น........................

..............Speed Boat ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันที่มาถึงเป็นลำแรกๆ .............

     ระหว่างเกาะปายู (เกาะเจ็ด) และเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) มีกลุ่มกองหินพ้นน้ำซึ่งเป็นจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของหมู่เกาะสิมิลันชื่อว่า หินปูซาร์ หรือ หินหัวกะโหลก (เป็นการเรียกชื่อตามลักษณะทางกายภาพของหินซึ่งดูคล้ายกับกะโหลกศีรษะของมนุษย์ครับ) แต่บางครั้งชาวต่างชาติก็จะนิยมเรียกกันว่า Elephant Head Rock (เนื่องจากชาวต่างชาติที่เป็นผู้ตั้งชื่อเห็นว่ากองหินนี้มีลักษณะคล้ายกับหัวช้างมากกว่ากะโหลกศีรษะมนุษย์ครับ) มีระดับความลึกของแนวปะการังประมาณ 10 – 40 เมตร เป็นจุดดำน้ำลึกที่สามารถพบเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้มากมายตั้งแต่ปลาทูน่า ปู กุ้งนานาชนิด ฉลามครีบขาว ปลากระเบนราหู หรือแม้กระทั่งฉลามวาฬ

........................ปลานกแก้วตัวใหญ่........................

...............ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้าแหวกว่ายอยู่เหนือแนวปะการังแผ่นเปลวไฟ...............

     .....นอกจากหินปูซาร์.....ใกล้ชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะปายู (เกาะเจ็ด) ก็ยังมีจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจอีกแห่งซึ่งเรียกกันว่า หินสามก้อน (หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ Deep Six Dive Site ครับ) มีระดับความลึกของแนวปะการังที่เหมาะสมแก่การดำน้ำอยู่บริเวณระยะ 18 – 35 เมตรจากผิวน้ำ สิ่งมีชีวิตโดดเด่นใต้ท้องทะเลนอกจากฝูงปลาหลากหลายชนิดก็ยังมีแนวกัลปังหา แส้ทะเล ปะการังอ่อน และฟองน้ำครก บางครั้งก็อาจพบเห็นกระเบนจุดฟ้า ฉลามครีบขาว หรือฉลามวาฬได้บ้าง.....หินสามก้อนนับเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำลึกของหมู่เกาะสิมิลันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 จนทำให้แนวปะการังแข็งในบริเวณนี้ได้รับความเสียหายไปเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นแนวปะการังที่เคยเสียหายก็ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาสวยงามใหม่อีกครั้งแล้ว ณ ปัจจุบัน

...............ความงดงามที่ใครๆ ได้เห็นก็จะต้องจดจำไปอีกนาน...............

..................................คลื่นสงบ ลมสงัด..................................

     4. เกาะห้า & เกาะหก : เป็นเกาะขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับเกาะอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีจุดดำน้ำตื้นอยู่ทั้งทางฝั่งทิศตะวันออกและฝั่งทิศตะวันออกของเกาะทั้ง 2 แห่ง ในส่วนของจุดดำน้ำตื้นทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะห้าและเกาะหกจะประกอบไปด้วยแนวปะการังโขด ปะการังโต๊ะ ปะการังเขากวาง และปะการังชนิดอื่นๆ ซึ่งพบประปรายกระจัดกระจายตัวอยู่กันห่างๆ ที่ระดับความลึกประมาณ 8 – 12 เมตรจากผิวน้ำ ในกรณีที่ดวงดีก็อาจพบเห็นเต่าทะเลบริเวณจุดดำน้ำตื้นทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะห้าและเกาะหกนี้ได้ด้วย (ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมเคยดำน้ำตื้นแล้วเจอกับเต่ากระบริเวณจุดดำน้ำตื้นทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะห้าและเกาะหกมาแล้วจริงๆ ครับ)

........................นกกินเปี้ยว.....คิดว่าใช่นะ ?........................

........................นกกาเหว่า..........ล่ะมั้ง ?........................

     สำหรับจุดดำน้ำตื้นทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะห้าและเกาะหกจะเป็นจุดดำน้ำที่มีแนวปะการังหนาแน่นมากกว่าจุดดำน้ำตื้นทางฝั่งทิศตะวันตก สามารถพบเห็นแนวปะการังเขากวาง กลุ่มดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนได้ (การที่ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสิมิลันจะเลือกพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นยังฝั่งใดของเกาะห้าและเกาะหก ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะคลื่นลมในวันออกทัวร์เป็นหลักครับ) นอกจากนี้ก็ยังมีจุดดำน้ำลึกทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะห้าที่เรียกว่า สวนปลาไหล ซึ่งมีปลาไหลสวนจำนวนหลายร้อยตัวฝังตัวอาศัยอยู่ในผืนทรายใต้ทะเลแล้วชูคอออกมาสอดส่ายหาอาหาร นักประดาน้ำที่ต้องการดูเจ้าปลาไหลสวนควรเฝ้าสังเกตอยู่ห่างๆ เนื่องจากพวกมันค่อนข้างขี้ตกใจ หากว่ายน้ำเข้าใกล้มากๆ พวกมันก็จะหดคอมุดเข้ารูหนีไปได้ง่ายๆ

........................กิ่ง.....กรอบ.....ขอบ.....ทะเล........................

........................วันพักผ่อนของพี่น้อง........................

     5. เกาะเมียง (เกาะสี่) : เป็นเกาะซึ่งมีขนาดพื้นที่ใหญ่รองลงมาจากเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.1 (เกาะเมียง) บนเกาะมีทั้งบ้านพักและเต็นท์พร้อมเครื่องนอนเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะค้างแรมบนเกาะ สำหรับบ้านพักอุทยานฯ บนเกาะเมียงนี้มีทั้งห้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศและห้องพัดลมให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบ แต่แนะนำว่าถ้าอยากจะนอนในบ้านพักของอุทยานจริงๆ ก็ควรทำการจองห้องผ่าน nps.dnp.go.th.....ส่วนใหญ่บ้านพักของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันบนเกาะเมียง (เกาะสี่) จะถูกจองเต็มล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาวตามเทศกาลต่างๆ บ้านพักของอุทยานฯ บนเกาะเมียงก็มักจะเต็มล่วงหน้าราว 2 เดือนอยู่เสมอครับ)

..........บ้านพักของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บน เกาะเมียง (เกาะสี่)..........

...............ภายในห้องพักซึ่งถูกจัดแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย...............

     โดยรอบเกาะเมียง (เกาะสี่) มีชายหาดน้อยใหญ่ที่สวยงามและเหมาะแก่การลงเล่นน้ำดำผุดดำว่ายอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่

     หาดหน้า : ชายหาดยาวสีขาวสะอาดตาซึ่งมีความยาวประมาณ 400 เมตร ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของเกาะเมียง

     หาดนุ้ย : หาดทรายขนาดเล็กมีความยาวของแนวชายหาดไม่เกิน 50 เมตร ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของเกาะเมียงเช่นเดียวกับหาดหน้า แต่ระหว่างชายหาดทั้ง 2 แห่งจะมีโขดหินขนาดใหญ่กั้นขวางอยู่

     หาดเล็ก : ชายหาดทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะเมียง มีความยาวประมาณ 200 เมตร

     .....ทั้งนี้.....ชายหาดแต่ละแห่งก็จะมีจุดเด่นและมีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกัน ซึ่งในบทความช่วงต่อไปทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมจะขออนุญาตนำคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับข้อมูลของชายหาดแต่ละแห่งรอบเกาะเมียง (เกาะสี่) กันโดยละเอียด

...............จะไม่ลงไป Snorkeling กับพี่สักหน่อยหรือ ?...............

..................................วันฟ้าสลัว..................................

     หาดหน้า : จากป้ายความรู้ของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันเขียนเอาไว้ว่า หาดหน้าของเกาะเมียง (เกาะสี่) เป็นชายหาดที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยลักษณะของเนื้อทรายสีขาวสะอาดเนียนละเอียดนุ่ม ให้ความรู้สึกสัมผัสที่เท้าราวกับเหยียบลงบนผงแป้งฝุ่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเนื้อทรายริมชายหาดโดยรอบบริเวณหมู่เกาะสิมิลันซึ่งยากจะหาสถานที่แห่งใดๆ ในประเทศไทยเหมือน และนอกเหนือไปจากความโดดเด่นของเนื้อทรายแล้ว น้ำทะเลใสๆ สีฟ้าไพลินเบื้องหน้าชายหาดก็ยังช่วยส่งเสริมความงดงามของหาดหน้าให้เพิ่มทวีมากยิ่งขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ

...............ฝูงปลากล้วยใต้ท้องทะเลรอบๆ เกาะเมียง (เกาะสี่)...............

...............ครอบครัวปลาน้อยสีส้มในทุ่งปะการังเขากวางจิ๋ว...............

     ใต้ท้องทะเลใสสีไพลินบริเวณหาดหน้ามีแนวปะการังกระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ ที่ระดับความลึกประมาณ 4 – 8 เมตรจากผิวน้ำ ปะการังที่พบส่วนใหญ่ในบริเวณนี้จะเป็นปะการังโขด อาจพบปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็งหรือปะการังชนิดอื่นๆ ก่อตัวแทรกอยู่ได้บ้าง (สภาพแนวปะการังไม่ค่อยสวยงามและไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์สักเท่าไหร่ครับ) แต่ถ้าหากเลือกพักค้างแรมบนเกาะเมียง (เกาะสี่) แล้วตื่นลงมาดำน้ำตื้นตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.30 – 9.00 น. ซึ่งยังไม่มีกลุ่มทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบต่างๆ เดินทางมาถึง ก็มีโอกาสที่จะเจอกับฝูงปลามงฝูงใหญ่ใต้ท้องทะเลใสบริเวณหาดหน้าได้ง่ายๆ (ทีมงานของเราเคยลงดำน้ำตื้นช่วงเช้าบริเวณหาดหน้าอยู่ 2 ครั้ง ก็มีโอกาสได้พบกับฝูงปลามงขนาดตัวราว 20 – 30 ซม.นับหลายร้อยตัวทั้ง 2 ครั้งเลยครับ)

..................................รถเข็นสัมภาระ..................................

........................เดินกลับขึ้นหาดหน้า........................

     บริเวณหาดหน้าของเกาะเมียง (เกาะสี่) นอกจากจะเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล. 1 (เกาะเมียง) ก็ยังมีบ้านพักแบบต่างๆ และลานกางเต็นท์รวมถึงร้านค้าร้านอาหารสวัสดิการอยู่ด้วย จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบบริเวณหาดหน้าค่อนข้างจะคึกคักอยู่เกือบตลอดทั้งวัน (จริงๆ แล้วในช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 15.00 น.บรรยากาศบริเวณหาดหน้าอาจจะเรียกได้ว่าถึงขั้นแออัด เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ” เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมหาศาลเลยครับ) นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มหรือสั่งอาหารมารับประทานได้ในราคาที่ไม่แตกต่างไปจากร้านค้าและร้านอาหารสวัสดิการบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด)

...............บริเวณหาดหน้า คือ ที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.1 (เกาะเมียง)...............

........................ซัดสาดทรายคลุ้งฟุ้งกระจาย........................

     .....บางครั้ง.....โดยรอบพื้นที่ใกล้กับลานกางเต็นท์ของเกาะเมียง (เกาะสี่) นักท่องเที่ยวอาจสังเกตเห็นนกหน้าตาประหลาดซึ่งมีขนสร้อยคอยาวสั่นพลิ้วไหวไปมาในขณะที่พวกมันกำลังเดินดุ่มๆ อยู่บนพื้นดิน เจ้านกเหล่านี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี พ.ศ. 2535 ชื่อว่า “นกชาปีไหน” หรือ “Nicobar pigeons” (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Caloenas Nicobarica) โดยปกติเราจะพบเห็นนกชาปีไหนในธรรมชาติจริงๆ ได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้านักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เดินทางมายังหมู่เกาะสิมิลันก็จะสามารถพบเห็นเจ้านกเหล่านี้ได้ในสถานที่หลากหลายแห่ง ทั้งบริเวณใกล้ๆ กับลานกางเต็นท์เกาะเมียง ใต้ร่มเงาไม้บริเวณหาดเล็กทางด้านทิศตะวันออกของเกาะเมียง และบริเวณใกล้ๆ กับลานกางเต็นท์อ่าวเกือกของเกาะสิมิลัน (เกาะแปด)

นกชาปีไหน : สัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถพบเห็นได้ ทั้งบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่)

ใครมาเยือน หมุ่เกาะสิมิลัน แล้วไม่ได้เห็นเจ้านกชาปีไหนตัวเป็นๆ แนะนำว่าควรต้องมาใหม่จนกว่าจะได้เห็น.....จึงจะได้ชื่อว่าไม่เสียเที่ยว

     นกชาปีไหน เป็นนกที่มีลักษณะสวยงาม อยู่ในวงศ์เดียวกันกับนกพิราบ ตัวเต็มวัยมีขนาดราว 40 ซม. ส่วนหัวสีเทา มีขนสร้อยคอยาว (ตัวเมียจะขนาดตัวเล็กกว่าและมีขนสร้อยคอสั้นกว่าตัวผู้ครับ) ขนทั่วตัวเป็นสีเขียวเหลือบเหลืองและม่วง ปลายปีกสีดำน้ำเงิน หางสั้นจนแทบมองไม่เห็น โดยปกตินกชาปีไหนจะมีนิสัยหวาดระแวง พวกมันจึงชอบแอบย่องออกมาหาผลไม้สุกหรือเมล็ดพืชที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นในช่วงเวลาเช้าหรือเย็นที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวบนเกาะน้อย (ช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 14.45 น.ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบต่างๆ เดินทางมาถึงเกาะเมียงเป็นจำนวนมากจะพบเห็นนกชาปีไหนได้ยากกว่า.....แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเห็นนะครับ) คำแนะนำในการเฝ้าสังเกตนกชาปีไหน คือ ไม่ควรส่งเสียงดัง ไม่ควรเดินเข้าใกล้พวกมันจนเกินไปนัก เพราะหากนกชาปีไหนถูกรบกวนมากๆ พวกมันก็อาจอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังเกาะแห่งอื่นๆ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่สงบเงียบกว่า

...................ป้ายความรู้ที่ปักอยู่กลางทุ่งผักบุ้งทะเล...................

...................โขดหินใหญ่ริมหาดหน้า เกาะเมียง (เกาะสี่) ..................

     .....นอกจากนกชาปีไหน.....บนเกาะเมียง (เกาะสี่) ก็ยังมีสัตว์ป่าที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นเป็นประจำได้อีกหลายชนิด อาทิเช่น “ค้างคาวแม่ไก่เกาะ” สัตว์ป่าคุ้มครองอีกชนิดหนึ่งที่เราจะพบเห็นพวกมันเกาะห้อยหัวอยู่ตามกิ่งไม้สูงเป็นกลุ่มๆ มีขนบริเวณใบหน้า หู และหลังเป็นสีน้ำตาลเทา คอและหน้าอกมีขนสีน้ำตาลอมส้ม ส่วนขนบริเวณลำตัวและปีกเป็นสีน้ำตาลเกือบดำ “ปูไก่” สัตว์ประจำถิ่นของหมู่เกาะสิมิลันซึ่งมีขนาดตัวตั้งแต่ประมาณ 8 – 20 ซม. ขุดรูอาศัยอยู่ในดินร่วนปนทรายในป่าใกล้ลำธารหรือน้ำตก หรือตามป่าชายหาด กระดองเป็นรูปไข่มีสีน้ำตาลอมม่วง ส่วนโคนขาเป็นสีส้ม ขามีขนสีน้ำตาลปกคลุม บริเวณก้ามเป็นสีน้ำตาลอมส้ม ตัวเมียจะมีก้ามทั้ง 2 ข้างขนาดใหญ่เท่าๆ กันแต่ตัวผู้จะมีก้ามข้างใดข้างหนึ่งใหญ่กว่า ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ปูไก่จะใช้ก้ามกระทบและเสียดสีกันเกิดเป็นเสียงดัง “ก๊อกแก๊ก” คล้ายเสียงของไก่ ตามปกติปูไก่จะออกหากินในช่วงเวลากลางคืน ถ้านักท่องเที่ยวอยากจะเห็นก็แนะนำให้ลองถือไฟฉายไปส่องตามชายป่าดูได้ (หากเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” ก็จะมีมัคคุเทศก์เป็นผู้ถือไฟฉายนำทางพานักท่องเที่ยวไปดูปูไก่ตามชายป่าในช่วงเวลาประมาณ 19.00 – 20.00 น. ซึ่งบางครั้งก็อาจได้เห็น “ปูเสฉวนยักษ์” เป็นของแถมด้วยครับ)

..................................กิ้งก่าบนต้นไม้..................................

ค้างคาวแม่ไก่เกาะ : สัตว์ป่าคุ้มครองอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งพบเห็นได้ง่ายๆ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

     จากหาดหน้า.....ถ้านักท่องเที่ยวได้ลองเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 100 เมตรก็จะพบกับทางสามแพร่งที่มีป้ายบอกทางชี้ไปด้านขวาเขียนว่า “หาดนุ้ย” ซึ่งหากนักท่องเที่ยวเดินลงจากเนินเขาตามป้ายดังกล่าวไปอีกเพียงแค่ไม่เกิน 40 เมตร ก็จะได้พบเจอกับหาดทรายเล็กๆ สีขาวสะอาดตาที่มีแมกไม้ชายทะเลเจริญงอกงามขึ้นปกคลุมอยู่เกือบรอบด้าน เบื้องหน้าหาดทรายเป็นน้ำทะเลใสสีไพลินสวยงามไม่แพ้ชายหาดแห่งอื่นๆ โดยรอบหมู่เกาะสิมิลันแต่มีความเงียบสงบมากกว่าหลายเท่า หาดนุ้ยมีความยาวของแนวชายหาดเพียงแค่ไม่เกิน 50 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของหาดทรายมีแนวโขดหินขนาดใหญ่กั้นขวางแบ่งอาณาเขตระหว่างหาดนุ้ยกับหาดหน้าแยกออกจากกันอย่างชัดเจน (นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินข้ามโขดหินชายทะเลจากหาดหน้ามายังหาดนุ้ยได้ จำเป็นจะต้องเดินมาตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเท่านั้นครับ) ใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเลในบรรยากาศซึ่งค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวแนะนำว่าให้แอบหลบเลี่ยงกลุ่มคนมาปล่อยอารมณ์สบายๆ อยู่ ณ หาดนุ้ยก็ดีไม่หยอก

...................เห็นแบบนี้แล้วก็คงหลงรักประเทศไทยได้ไม่ยาก ..................

..................................ณ หาดนุ้ย..................................

     หากนักท่องเที่ยวเดินเลี้ยวซ้ายบริเวณทางสามแพร่งขึ้นเขามุ่งหน้าไปทางฝั่งทิศตะวันตกอีกราว 150 เมตร ก็จะพบทางเดินลงสู่ “อ่าวพระอาทิตย์ตก (Sun Set Bay)” ซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าวหินที่มีต้นเตยทะเลขึ้นยืนต้นโอบล้อมอยู่รอบด้าน อ่าวพระอาทิตย์ตกเป็นหนึ่งในจุดชมทิวทัศน์ยามดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับจากเส้นขอบฟ้าแห่งหนึ่งแต่ก็ถือว่ายังไม่ใช่สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะเมียง (เกาะสี่) เพราะถ้านักท่องเที่ยวได้ลองเดินตามเส้นทางดินบนเขาต่อไปทางด้านขวามือของทางแยกลงสู่อ่าวพระอาทิตย์ตกอีกเพียงแค่ราว 80 เมตร (ถ้านักท่องเที่ยวหันหน้าเข้าหาอ่าวพระอาทิตย์ตก.....ทางเดินต่อจะอยู่ฝั่งขวามือครับ) ก็จะได้พบกับ “จุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกเกาะเมียง (Sun Set View Point)” ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ยามเย็นที่สวยงามที่สุดของเกาะแห่งนี้

คู่รักชาวต่างชาติกำลังนั่งรอชมแสงสุดท้าย อยู่บริเวณ จุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกเกาะเมียง

.....................เรือทัวร์หมู่เกาะสิมิลันที่ยังคงหลงอยู่หนึ่งลำ....................

     จุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกเกาะเมียง (Sun Set View Point) เป็นจุดชมทิวทัศน์ซึ่งมีทำเลถ่ายรูปสวยๆ อยู่หลากหลายมุม .....ทั้งนี้.....นักท่องเที่ยวอาจเลือกเดินลัดเลาะแนวผาหินออกมาทางด้านหน้าจุดชมทิวทัศน์เพื่อหาจุดเล็งกล้องเหมาะๆ หรืออาจเลือกปีนป่ายขึ้นไปตามแนวก้อนหินใหญ่อย่างระมัดระวังเพื่อมุ่งสู่ตำแหน่งยอดสุดของจุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกเกาะเมียงก็ได้ .....ตามปกติ.....นักท่องเที่ยวที่จะมีโอกาสได้เดินมายังจุดชมทิวทัศน์แห่งนี้จะมีเพียงแค่ผู้ซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” เท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” จะต้องเริ่มรับประทานอาหารเย็นกันตั้งแต่เวลา 17.30 – 17.45 น.และทำให้ไม่มีโอกาสเดินมารอชมพระอาทิตย์ตก (ใครที่เลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” แล้วต้องการจะเดินมารอชมพระอาทิตย์ตกควรสอบถามมัคคุเทศก์ประจำทัวร์ของท่านก่อนว่าทำได้ไหมนะครับ) ส่วนนักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ” ก็หมดสิทธิ์ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วเนื่องจากต้องออกเดินทางกลับฝั่งตั้งแต่เวลา 15.00 – 15.15 น.

........................Before Sunset.......................

..........................ยามเช้าที่ หาดเล็ก............................

     ดังที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วในบทความช่วงก่อนหน้านี้ว่าทางฝั่งทิศตะวันออกของเกาะเมียง (เกาะสี่) ยังมีชาดหาดสวยๆ อยู่อีกแห่งหนึ่งชื่อว่า “หาดเล็ก” นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากหาดหน้ามายังหาดเล็กได้โดยใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 350 เมตร (หากไม่แวะชมนกชมไม้หรือไม่แวะเอ้อระเหยระหว่างเส้นทาง จะใช้เวลาในการเดินราว 10 – 15 นาทีครับ) ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ในภาวะที่เร่งรีบสักเท่าไหร่นักก็อาจลองเดินมองหานกป่ามาเรื่อยๆ หรืออาจค่อยๆ สังเกตดูว่ามีปูเสฉวนยักษ์เดินต้วมเตี้ยมอยู่ตามริมทางบ้างหรือไม่ ? (เส้นทางศึกษาธรรมชาติหาดหน้า – หาดเล็ก เป็นเส้นทางซึ่งมัคคุเทศก์ประจำ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” มักจะพานักท่องเที่ยวมาเดินดูปูไก่หรือปูเสฉวนยักษ์ในช่วงหัวค่ำอยู่เสมอครับ)

............................อรุณเบิกฟ้า............................

มีเพียงแค่นักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการ ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด หรือ ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน จึงจะมีโอกาสได้เห็นภาพความงดงามยามเช้า

     หาดเล็ก : เป็นชายหาดสีขาวสวยสะอาดตา เนื้อทรายเนียนนุ่มในระดับใกล้เคียงกับหาดหน้า มีความยาวของแนวชายหาดราว 200 เมตร พื้นทรายบริเวณหาดเล็กมีความลาดเอียงต่ำ (ค่อยๆ ลาดลงสู่ท้องทะเล) ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาลูกหลานตัวเล็กๆ มาเล่นน้ำได้อย่างค่อนข้างปลอดภัย ริมชายหาดมีแมกไม้ทะเลเจริญเติบโตงอกงามแผ่กิ่งใบให้ร่มเงาเป็นบริเวณกว้าง ลึกเข้าไปจากแนวชายหาดเพียงแค่เล็กน้อยเป็นที่ตั้งของอาคารสถานีดำน้ำและหน่วยกู้ภัยประจำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน รวมถึงยังมีอาคารโรงผลิตไฟฟ้าของเกาะเมียง (เกาะสี่) ตั้งอยู่ด้วย ในช่วงเช้าหรือเย็นซึ่งไม่ค่อยมีผู้คนเดินทางมาเยือนหาดเล็ก นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นนกชาปีไหนเดินไปเดินมาอยู่ใต้ร่มไม้ริมหาดทราย หรือเดินคุ้ยเขี่ยหาอาหารอยู่ตามพื้นดินโดยรอบบริเวณอาคารต่างๆ ที่กล่าวถึงมาแล้วดังข้างต้นได้โดยง่าย

.................................เก็บความทรงจำ.................................

............................อารมณ์นี้มันต้อง.....กระโดดโลดเต้น............................

     เนื่องจากหาดเล็กเป็นชายหาดที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก นักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมบนเกาะเมียง (เกาะสี่) และชื่นชอบบรรยากาศสวยๆ ในยามเช้าขณะที่ฟากฟ้าค่อยๆ แปรเปลี่ยนจากสีเทาหม่นเผยให้เห็นเหลือบลายแสดแดง แล้วกลับกลายเป็นประกายแสงขาวเจิดจ้าทาบทาไปทั่วผืนนภาสีฟ้าสดใส ก็แนะนำให้ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ราว 5.30 น.จากนั้นก็ล้างหน้าล้างตาปลดปล่อยทุกข์เข็ญน้อยใหญ่ออกจากร่างกายแล้วออกเดินจากที่พักมาให้ถึงหาดเล็กก่อนเวลา 5.50 น. ก็จะมีโอกาสได้สัมผัสกับความงดงามยามอรุณรุ่งถ้าท้องฟ้าไม่มีเมฆครึ้มบดบัง

......................................พักกายใต้ร่มไม้......................................

.......................หาดเล็ก ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอันยิ่งใหญ่.......................

     ระหว่างเส้นทางศึกษาธรรมชาติหาดหน้า – หาดเล็ก ถ้านักท่องเที่ยวได้ลองสังเกตสิ่งต่างๆ ริมสองข้างทางดูสักหน่อยก็น่าจะมองเห็นป้ายบอกทางที่เขียนว่า “จุดชมทิวทัศน์ลานข้าหลวง” (หากนักท่องเที่ยวกำลังเดินจากหาดหน้าไปยังหาดเล็กก็จะพบกับป้ายดังกล่าวปักอยู่ทางด้านขวามือบริเวณสามแยกทางดินช่วงก่อนถึงหาดเล็กประมาณ 50 เมตรครับ) ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวได้ลองเดินเลี้ยวตามป้ายบอกทางดังกล่าวมุ่งหน้าขึ้นเขาไปอีกราว 250 เมตร ก็จะมาถึง “ลานข้าหลวง” อันเป็นจุดชมทิวทัศน์ท้องทะเลจากมุมสูงที่สวยงามมากที่สุดของเกาะเมียง (เกาะสี่)

........................ผืนน้ำใสเมื่อมองลงมาจากเบื้องบน.......................

..................ภาพถ่ายจากจุดชมทิวทัศน์ลานข้าหลวง..................

     จุดชมทิวทัศน์ลานข้าหลวง เป็นจุดชมทิวทัศน์ซึ่งตั้งชื่อขึ้นตามลักษณะของลานหินที่มีต้นเฟิร์นข้าหลวงขึ้นเจริญงอกงามอยู่รายรอบ เมื่อมองลงไปจากจุดชมทิวทัศน์แห่งนี้ก็จะเห็นเวิ้งอ่าวสีขาวๆ ของหาดเล็กและแนวปะการังใต้ผืนน้ำใสสีฟ้าอ่อนไล่ไปจนถึงสีครามเข้มตามระดับความลึกของท้องทะเล อีกทั้งยังสามารถมองเห็นเกาะห้าและเกาะหกซึ่งเรียงตัวอยู่ทางทิศเหนือของเกาะเมียงได้ด้วย นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินขึ้นมายังจุดชมทิวทัศน์ลานข้าหลวงควรเป็นผู้ซึ่งมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เนื่องจากมีบางจุดระหว่างเส้นทางที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องใช้เชือกดึงตัวขึ้นไปตามทางดินและก้อนหินซึ่งค่อนข้างชัน ไม่แนะนำให้เด็ก ผู้สูงวัย และผู้ที่คิดว่าร่างกายไม่แข็งแรงมากเพียงพอเดินขึ้นสู่จุดชมทิวทัศน์แห่งนี้

........................................ขามา........................................

........................................ขากลับ (รู้สึกไร้สาระ)........................................

     สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำลึก.....บริเวณปลายแหลมทางตอนใต้ของเกาะเมียง (เกาะสี่) จะมีจุดดำน้ำลึกที่เรียกว่า กำแพงเมืองจีน (Chinese Wall) ซึ่งเป็นแนวหินลักษณะคล้ายกับกำแพงขนาดใหญ่ใต้ท้องทะเล กระแสน้ำไหลเชี่ยว อาจพบสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่และกลุ่มฟองน้ำได้ที่ระดับความลึกประมาณ 10 – 45 เมตร 

     6. เกาะปาหยัน (เกาะสาม) : เป็นเกาะซึ่งไม่มีหาดทรายแต่มีจุดดำน้ำลึกสำคัญๆ ของหมู่เกาะสิมิลันอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ หินสันฉลาม (Shark Fin Reef) ที่มักจะพบฉลามกบและกระเบนราหูอยู่เสมอ และ Boulder City ซึ่งเป็นแนวปะการังที่เป็นส่วนต่อเนื่องมาจากหินสันฉลามสามารถพบเห็นกัลปังหาได้เกือบตลอดเส้นทางดำน้ำลึกที่ระยะ 5 – 35 เมตรจากผิวน้ำ

........................คู่ขวัญปลาผีเสื้ออมไข่.......................

ถึงแม้ว่าเจ้าปลาในรูปตัวนี้จะไม่ใช่ฉลาม.....แต่มันก็มีเหาฉลามเกาะอยุ่บนหัวด้วย !

     7. เกาะปาหยัง (เกาะสอง) : มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน รอบเกาะเป็นหน้าผาและโขดหิน ไม่มีหาดทราย

     8. เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง) : ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่เกาะสิมิลัน มีหาดทรายสีขาวยาวบริสุทธิ์สวยงาม บนชายหาดเป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งใช้เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลซึ่งทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลุ่มใดๆ ขึ้นมาบนเกาะหูยง

     9. เกาะบอน : เป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะสิมิลันใกล้ๆ กับเกาะตาชัย กล่าวกันว่าสาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่า “เกาะบอน” ก็เนื่องมาจากการที่มีต้นบอนจำนวนมากเจริญเติบโตอยู่บนเกาะ แต่บางครั้งชาวเรือท้องถิ่นอาจเรียกเกาะแห่งนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะทะลุ จ.พังงา” ตามลักษณะของก้อนหินใหญ่ซึ่งถูกคลื่นลมทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นโพรงทะลุคล้ายกับสะพานหินธรรมชาติ ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันยังไม่มีการเปิดเกาะบอนให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชม

ถ้าไม่ลองเดินทางมาสัมผัสด้วยตนเอง ก็คงไม่มีทางรู้ว่าแท้จริงแล้ว หมู่เกาะสิมิลันสวยงามมากสักเพียงใด ?

......................................Silent wave......................................

     10. เกาะตาชัย : ในอดีตเกาะแห่งนี้เคยมีชื่อเรียกว่า “เกาะบัว” เนื่องจากบนเกาะมีบึงน้ำซึ่งเต็มไปด้วยดอกบัวเจริญงอกงามไปทั่ว ครั้นต่อมาภายหลังจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกไปเป็น “เกาะตาชัย” ตามชื่อชาวประมงผู้ค้นพบเกาะแห่งนี้เป็นคนแรก เดิมทีเกาะตาชัยเคยเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์แต่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้ตัดสินใจเปิดอนุญาตให้ผู้ประกอบการทัวร์ของบริษัทเอกชนพานักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเกาะตาชัยได้เป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 และด้วยความงดงามบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่เคยเปิดเผยต่อผู้ใดก็ทำให้โปรแกรมทัวร์เกาะตาชัยโด่งดังเป็นพลุแตกภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่นาน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลกันมาอย่างต่อเนื่องไม่เว้นในแต่ละปีจนทำให้สภาพแวดล้อมที่เคยสวยงามของเกาะตาชัยต้องเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันก็ได้ตัดสินใจปิดเกาะตาชัยอย่างไม่มีกำหนดเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมนับแต่วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา

.......................................บางมุม ......................................

.......................อีกมุม (ก็ไม่รู้จะอธิบายอะไรดีนี่นะ).......................

     ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน & การเดินทางสู่หมู่เกาะสิมิลัน


     .....ปัจจุบัน.....ยังไม่มีเรือ Ferry หรือเรือเมล์ของบริษัทใดๆ วิ่งให้บริการจากชายฝั่งไปจนถึงหมู่เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปยังหมู่เกาะแห่งนี้จึงมีทางเลือกเพียงแค่การซื้อ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน” แบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบใดๆ ผู้ประกอบการก็มีบริการรถรับส่งระหว่างโรงแรม/รีสอร์ท/ที่พัก ทั้งในเขต จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา มายังท่าเรือเสมอ (กรุณาตรวจสอบเขตพื้นที่รับส่งพร้อมติดต่อจองทัวร์หมู่เกาะสิมิลันในราคาโปรโมชั่นได้จาก “หมายเลขโทรศัพท์” หรือ “LINE ID” ในกรอบสีชาวทางด้านล่างครับ)

     ในย่อหน้าถัดไป.....เราจะมาทำความรู้จักกับทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแต่ละแบบไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้คุณผู้อ่านทุกๆ ท่านสามารถเลือกใช้บริการทัวร์ได้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะกลุ่มของคุณมากที่สุด

.......................................Yacht ......................................

..............................ดอกผักบุ้งทะเล..............................

     1. ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ (Similan Islands Tour : One Day Trip) : เป็นทัวร์หมู่เกาะสิมิลันที่เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวซึ่งมีเวลาไม่มากและไม่ได้ต้องการดื่มด่ำสัมผัสกับบรรยากาศของหมู่เกาะสิมิลันอย่างลึกซึ้งในเกือบทุกแง่มุม โดยปกติผู้ประกอบการจะเริ่มนำเรือทัวร์ออกจากในช่วงเวลาประมาณ 8.30 – 9.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางราว 45 นาที – 1 ชั่วโมง ก็จะมาถึงหมู่เกาะสิมิลัน หลังจากนั้นผู้ประกอบการก็จะพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นบริเวณเกาะบางู (เกาะเก้า), พักผ่อนบนชายหาดเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) รวมถึงพาขึ้นจุดชมทิวทัศน์หินเรือใบ ไปดำน้ำตื้นต่อที่เกาะปายู (เกาะเจ็ด) และ/หรือ เกาะห้า – เกาะหก, รับประทานอาหารกลางวัน, พักผ่อนตามอัธยาศัยบนชายหาดเกาะเมียง (เกาะสี่) แล้วเริ่มออกเดินทางจากหมู่เกาะสิมิลันกลับฝั่งในเวลาประมาณ 15.00 – 15.15 น. .....ทั้งนี้.....ในแต่ละวันผู้ประกอบการทัวร์อาจเรียงลำดับการพานักท่องเที่ยวเข้าไปยังเกาะแต่ละแห่งไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและคลื่นลม รวมถึงข้อตกลงระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการทัวร์ด้วยกันเอง (เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสิมิลันเพื่อบรรเทาปัญหาความแออัดของปริมาณนักท่องเที่ยวบนชายหาดครับ)

...............เรือนพักเจ้าหน้าที่บริเวณหาดเล็ก เกาะเมียง...............

...............ลานกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน...............

     2. ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด (Similan Islands Tour : Opened Day Trip) : ใครที่อยากจะไปพักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) หรืออยากจะพักค้างแรมบนเกาะเมียง (เกาะสี่) เป็นเวลารวมกันมากกว่า 3 คืนขึ้นไป (สามารถพักค้างแรมบนเกาะกี่คืนก็ได้จนกว่าจะถึงวันกำหนดปิดอุทยานฯ ครับ) หรืออยากจะไปพักค้างแรมทั้งบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่) แนะนำว่าการตัดสินใจใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” ก็จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม .....อย่างไรก็ดี.....“ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” ก็ยังมีข้อด้อย กล่าวคือ ผู้ประกอบการจะไม่มีการจองที่พักและไม่ได้จัดอาหารมื้อใดๆ ให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวยกเว้นเพียงแค่อาหารกลางวันในวันแรกของโปรแกรมทัวร์เท่านั้น (นักท่องเที่ยวต้องจองที่พักอุทยานฯ และหาอาหารมื้ออื่นๆ รับประทานเองครับ)

...................รูปที่เราถ่ายสวยไหม ?...................

........................เรือเล็ก..........เรือใหญ่........................

     คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างแรมทั้งบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่) โดยเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” คือ นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องตรวจสอบเส้นทางเรือ Speedboat ล่วงหน้าก่อนติดต่อจองห้องพักของอุทยานฯ เพราะบางครั้งผู้ประกอบการทัวร์อาจเลือกวิ่งเรือเข้าเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ก่อนจะมายังเกาะเมียง (เกาะสี่) แต่บางครั้งผู้ประกอบการก็อาจเลือกวิ่งเรือเข้าเกาะเมียง (เกาะสี่) ก่อนจะไปยังเกาะสิมิลัน (เกาะแปด).....ด้วยเหตุดังกล่าว.....หากนักท่องเที่ยวเลือกจองที่พักอุทยานฯ ไม่สอดคล้องกับเส้นทางวิ่งของเรือ Speedboat ก็อาจทำให้แผนการพักค้างแรมแบบ 2 เกาะล้มเหลวไม่เป็นท่าได้ง่ายๆ (ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวจองที่พักบนเกาะเมียงไว้ในวันที่ 11 – 12 เม.ย.และจองที่พักบนเกาะสิมิลันไว้ในวันที่ 13 เม.ย.แต่เส้นทางของเรือ Speedboat ในช่วงเวลาดังกล่าววิ่งเข้าเกาะสิมิลันก่อนแล้วจึงค่อยเดินทางต่อมายังเกาะเมียง กัปตันเรือก็จะไม่มีการย้อนเรือจากเกาะเมียงเพื่อกลับไปส่งนักท่องเที่ยวไว้ที่เกาะสิมิลันโดยเด็ดขาดครับ)

...................องค์ประกอบแห่งความงดงาม...................

........................................เข้าฝั่ง........................................

     3. ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน (Similan Islands Tour : Overnight Trip) : เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรมบนเกาะเมียง (เกาะสี่) เป็นระยะเวลา 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน และไม่ได้อยากจะวางแผนอะไรมากมาย โดยผู้ประกอบการทัวร์จะเป็นฝ่ายดำเนินการจองเต็นท์ที่พักบนเกาะเมียง (เกาะสี่) ให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยว มีบริการอาหารให้ในทุกๆ มื้อตามจำนวนวันที่ค้างคืน มีการพาไปดูปูไก่ในเวลาค่ำคืน รวมถึงมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ตามรายการของโปรแกรมทัวร์.....สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องทำเพื่อใช้บริการแบบนี้ก็มีเพียงแค่กำหนดวันเดินทาง.....จองทัวร์ .....จ่ายค่าบริการเมื่อได้รับการยืนยันการจอง.....จบเรื่อง (จอง จ่าย จบ.....จ้า) สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” ในช่วงวันหยุดยาวตามเทศกาลต่างๆ (เช่น ช่วงสิ้นปี, ตรุษจีน, สงกรานต์ เป็นต้น) ควรติดต่อจองทัวร์ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 1 – 2 เดือนเป็นอย่างน้อย

...................ความแตกต่างระหว่างเรา...................

จาก หาดหน้า เกาะเมียง สามารถมองออกไปเห็น เกาะปายู (เกาะเจ็ด) ได้อย่างชัดเจน

     4. ทัวร์ดำน้ำลึกหมู่เกาะสิมิลัน (Similan Islands Tour : Scuba Diving Trip) : เป็นโปรแกรมทัวร์เฉพาะกลุ่มสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีใบอนุญาตดำน้ำลึก เหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ Scuba diving ซึ่งต้องการจะมาสัมผัสกับความงดงามใต้ท้องทะเลของหมู่เกาะสิมิลันที่เคยได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ชื่อดังในต่างประเทศหลายๆ แห่งว่าเป็น 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกที่ดีที่สุดของโลก

     .....สุดท้ายนี้.....หากจะให้สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมที่เคยไปพักค้างแรมทั้งบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่) มาแล้วถึง 2 รอบ ขอบอกเลยว่าการเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด (Similan Islands Tour : Opened Day Trip)” หรือ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน (Similan Islands Tour : Overnight Trip)” จะมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและคุ้มค่าให้แก่นักท่องเที่ยวมากกว่าการเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเช้าไปเย็นกลับ (Similan Islands Tour : One Day Trip)” อย่างแน่นอน.....ถึงกระนั้น.....การที่นักท่องเที่ยวจะเลือกใช้บริการโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบใดก็จำเป็นจะต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเฉพาะสำหรับกลุ่มของตนเองอย่างเหมาะสมด้วย

..........ปลาขี้ตังเบ็ดลายที่กำลังพยายามพรางตัวให้เนียนๆ กับสิ่งแวดล้อม..........

.............................ฝูงปลาผีเสื้อคอขาว.............................

     .....อย่างไรก็ดี.....หากพิจารณาถึงผลกระทบซึ่งเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบหมู่เกาะสิมิลันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชก็มีแนวโน้มที่จะประกาศให้งดการพักค้างแรมบนเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่) เป็นการชั่วคราว (หรืออาจเป็นการถาวรก็ได้ครับ) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยตกค้าง รวมถึงช่วยลดปริมาณการระบายน้ำเสียจากพื้นที่ห้องอาบน้ำ – ห้องสุขาของนักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมบนเกาะไม่ให้ไหลลงสู่ท้องทะเลในปริมาณมากเกินจำเป็น .....ทั้งนี้.....ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้ผู้ประกอบการทัวร์อาจจำเป็นต้องยกเลิกโปรแกรม “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบเปิด” และ “ทัวร์หมู่เกาะสิมิลันแบบค้างคืน” ไปในที่สุด

.......................................Calm Belt ?.......................................

..........หินใหญ่สวยๆ แบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลัน..........

     ข้อมูลอ้างอิง : การลงพื้นที่เก็บข้อมูลจริงโดยรอบหมู่เกาะสิมิลันของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน, กลุ่มอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม, วิกิพีเดีย

     ถ่ายภาพและเขียนบทความ : ตฤณ ณ อัมพร

     เรียบเรียง : อรชร ลลิตผสาน

     สงวนลิขสิทธิ์โดย : เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com)

     เงื่อนไขการจองทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน โปรโมชั่นราคาถูก ! โดยใช้ Line

     สำหรับการจองทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน กรุณาแจ้งจองทัวร์และปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการจองทัวร์ต่างๆ ทางด้านล่างทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าก่อนกำหนดวันออกทัวร์อย่างน้อย 4 – 7 วัน (กรณีช่วงวันหยุดเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ควรติดต่อจองทัวร์และปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ มิฉะนั้นทัวร์อาจเต็มครับ)


     ขั้นตอนการจองทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน โปรโมชั่นราคาถูก ! โดยใช้ Line

     1.เปิด Application Line ใน Smartphone หรือ Tablet ของท่านขึ้นมา แล้วเลือกหัวข้อ “เพิ่มเพื่อน” จากนั้นให้เลือกหัวข้อ “ID/โทรศัพท์” ทางด้านขวาบนของหน้าเพิ่มเพื่อน

     2.เลือกเพิ่มเพื่อนโดยใช้ Line ID : cimlee หรือ thongteaw2 หรือ trin.thongteaw.com หรือ thongteaw.com

     3.หากท่านไม่สะดวกในการเพิ่มเพื่อนจาก Line ID ท่านสามารถเลือกเพิ่มเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์ได้โดยการใส่หมายเลขโทรศัพท์ 0942363295 หรือ 0945193645 ลงในช่อง “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” แล้วกดเครื่องหมายแว่นขยาย (ช่องด้านบน “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” ให้ใช้รหัส Thailand +66 ซึ่งถ้าโทรศัพท์ของท่านใช้ SIM card ที่ลงทะเบียนในประเทศไทยก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใดๆ ครับ)

     4. เมื่อทำการเพิ่มเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แจ้งข้อมูลผู้จองส่งมาทาง Line ให้ครบถ้วนดังรายละเอียดต่อไปนี้

     - ชื่อ – นามสกุล : (ต้องเป็นชื่อ – นามสกุลจริงๆ เท่านั้น ห้ามใช้ชื่อเล่นในการจอง) ของผู้จองซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่ม 1 ท่าน โดยผู้จองต้องเป็นผู้ที่มีหลักฐานยืนยันตัวตน (หลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับผู้จองชาวไทยใช้ “บัตรประชาชน” หรือ “ใบขับขี่” ส่วนหลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับชาวต่างประเทศใช้ “หนังสือเดินทาง : Passport” ครับ) ต้องส่งหลักฐานของทุกท่านที่จองทัวร์ เพื่อทำการจองตั๋วขึ้นเกาะ กับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และต้องนำหลักฐานแสดงตัวตนมาในวันเดินทางเพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จุดเช็คอิน หรือแสดงแก่เจ้าหน้าที่คนขับรถกรณีใช้บริการรถรับส่ง

     - หมายเลขโทรศัพท์มือถือ : ต้องเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถใช้ติดต่อกับผู้จองได้จริงในวันออกเดินทาง

     - ประเภททัวร์หมู่เกาะสิมิลัน ที่เลือก : สามารถเลือกประเภทได้จากทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน แบบต่าง ๆ

     - วันที่จะใช้บริการ : คือวันที่เดินทางออกทัวร์นั่นเอง

     - จำนวนนักท่องเที่ยว : จำนวนรวมของนักท่องเที่ยวในกลุ่ม

     - สัญชาตินักท่องเที่ยว : กรุณาแจกแจงข้อมูลว่าในกลุ่มของท่านมีนักท่องเที่ยวสัญชาติใดอยู่บ้าง ? แต่ละสัญชาติมีจำนวนกี่คน ? ยกตัวอย่างเช่น ไทย 4 คน จีน 2 คน อเมริกัน 1 คน เป็นต้น

     - อายุเด็ก : สำหรับทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน ทุกๆ แบบ “เด็ก” หมายถึงผู้ที่มีอายุระหว่าง 4 - 12 ปี ส่วนสูงต้องไม่เกิน 120 ซม. และจะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราของเด็ก หากอายุไม่ถึง 4 ปี สามารถใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน (นั่งตักผู้ใหญ่) กรณีที่อายุเกิน 12 ปี หรือสูงกว่า 120 ซม. จะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราเดียวกับผู้ใหญ่ (ไม่ถือว่าเป็นเด็กครับ) เพราะฉะนั้นหากแจ้งจองทัวร์โดยระบุว่ามีเด็กอยู่ภายในกลุ่มจึงจำเป็นจะต้องแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของอายุ และส่วนสูงเด็กไว้ด้วย

     - ชื่อที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท ที่ต้องการจะให้รถไปรับส่ง : สำหรับกรณีเลือกบริการรถรับส่ง โปรดแจ้งชื่อที่พักให้ทราบเพื่อจะได้ตรวจสอบพื้นที่และแจ้งเวลารถรับ

     5.เมื่อแจ้งข้อมูลการจองครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้รอรับข้อความยืนยันการจองทาง Line (กรณี ตั๋วเรือ หรือทัวร์เต็มก็จะมีการแจ้งผลการจองกลับทาง Line ให้ทราบเช่นกันครับ)

     7.เมื่อชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย กรุณาส่งหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายมาทาง Line

     - กรณีเป็น Slip จากตู้ ATM หรือใบนำฝากของธนาคารให้ใช้การถ่ายรูปส่งทาง Line

     - กรณีเป็นการโอนผ่าน Application บน Smartphone หรือ Tablet ให้ Capture หน้าจอซึ่งดำเนินการชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งมาทาง Line

     8.ทีมงานจะใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าใช้จ่าย ตรวจสอบความถูกต้องของยอดโอน และดำเนินการส่ง Voucher กลับทาง Line ภายในเวลา 24 – 48 ชม. หากยอดโอนหรือหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ทีมงานจะแจ้งให้ท่านทราบทาง Line เพื่อขอความกรุณาให้ท่านดำเนินการอย่างถูกต้องอีกครั้ง

     9.เมื่อได้รับ Voucher เรียบร้อยแล้ว ในวันออกเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน ท่านสามารถใช้หลักฐานยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน, ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง แล้วแต่กรณี) ร่วมกับการแสดง Voucher จาก Smartphone หรือ Tablet เพื่อ Check In ขึ้นรถรับส่งหรือขึ้นเรือได้ทันที

     10.เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไม่มีความประสงค์หรือนโยบายใดๆ ที่จะกระทำการเพื่อหลอกลวง ทุจริต หรือฉ้อโกงท่านในทุกกรณี หากมีข้อจำกัดทางด้านสภาพคลื่นลมหรือภูมิอากาศ รวมถึงข้อจำกัดทางด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ส่งผลให้ เรือ ไม่สามารถออกทัวร์ได้ ทางเว็บไซต์ยินดีคืนค่าใช้จ่ายซึ่งท่านได้ชำระไว้ล่วงหน้าให้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไข (แต่ในกรณีซึ่งท่านยกเลิกตั๋วเรือ หรือทัวร์ทั้งๆ ที่ เรือยังคงสามารถออกเรือไปทัวร์ได้ตามปกติ หรือท่านไม่มารอรถรับส่ง/เรือ ตามเวลานัดหมาย ทางเว็บไซต์จะไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆ ให้นะครับ)

     11.ผู้รับผิดชอบโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน : ผู้ประกอบการใบอนุญาตเลขที่ 33/01159 , 34/01166 , 34/00341 , 33/00986


     หมายเหตุ
     รายละเอียดโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพคลื่นลม และสภาวะอากาศ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า

     - ราคานี้มีผล ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 - 15 พฤษภาคม 2565 เท่านั้น