Custom Search
 


เกาะไข่ อ.เมือง จ.สตูล
(ดูภาพด้านล่าง)



     ว่ากันว่าหากใครมีโอกาสพาหวานใจมาท่องเที่ยวทะเล จ.สตูล และอยากให้ความรักมั่นคงยืนยาวล่ะก็ ต้องพาหวานใจมาลอด “ซุ้มรักนิรันดร (Lover’s Gate)” ที่ตั้งอยู่บน “เกาะไข่” สักครั้ง..........ซึ่งไม่ว่าเรื่องราวเล่าขานดังกล่าวข้างต้นจะมีมูลเหตุเท็จจริงประการใดก็ตาม ในปัจจุบันซุ้มประตูหินธรรมชาติแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของ จ.สตูล ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     “เกาะไข่ จ.สตูล” เป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งอยู่บนเส้นทางเดินเรือระหว่างเกาะตะรุเตา – เกาะหลีเป๊ะ ถึงแม้ว่าชื่อของ “เกาะไข่ จ.สตูล” แห่งนี้จะไปพ้องต้องกันกับชื่อของ “หมู่เกาะไข่ จ.พังงา” แต่ความจริงแล้วต่างก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนละแห่ง นักท่องเที่ยวซึ่งไม่เคยทราบข้อมูลเหล่านี้มาก่อนอาจเกิดความสับสนได้ ( “หมู่เกาะไข่ จ.พังงา” ประกอบไปด้วยเกาะสำคัญๆ 3 เกาะ คือ เกาะไข่ใน , เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย ส่วน “เกาะไข่ จ.สตูล” เป็นเกาะเดียวแยกออกมาเดี่ยวๆ สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกาะเหล่านี้ได้รับชื่อว่า “เกาะไข่” ก็เนื่องมาจากหาดทรายสีขาวนวลอมน้ำตาลอ่อนสวยงามคล้ายกับสีเปลือกไข่นั่นเองครับ) สำหรับเนื้อหาต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ภายในบทความชิ้นนี้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จะขอกล่าวอ้างอิงถึงเฉพาะ “เกาะไข่ จ.สตูล” เท่านั้น



เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล 

ความงดงามกลางทะเลใต้



     ซุ้มรักนิรันดร : สัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวทะเล จ.สตูล

      หากจะกล่าวถึงสิ่งสำคัญที่ทำให้เกาะไข่ จ.สตูล มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวก็คงจะหนีไม่พ้น ทิวทัศน์ของซุ้มประตูหินธรรมชาติขนาดใหญ่ซึ่งเรียกกันว่า “ซุ้มรักนิรันดร” , “ซุ้มประตูแห่งรัก” หรือ “ซุ้มประตูแห่งคู่รัก” ที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ (จะเรียกชื่อซุ้มประตูหินธรรมชาติของเกาะไข่ จ.สตูล อย่างหนึ่งอย่างใดจากใน 3 แบบข้างต้นก็ไม่ถือว่าผิดครับ) ลักษณะของซุ้มรักนิรันดรเป็นซุ้มประตูหินโค้งขนาดใหญ่และเล็ก 2 ช่องวางเรียงตัวอยู่คู่กัน มีความเชื่อว่าหากใครพาคู่รักลอดเข้าประตูช่องหนึ่งแล้วลอดกลับออกมาทางอีกช่องหนึ่งจะได้พบกับความรักที่มั่นคง..........ยืนยาว คนบ้ากล้องมักจะไม่ยอมพลาดโอกาสในการถ่ายภาพงามๆ ณ ซุ้มประตูแห่งนี้



ซุ้มรักนิรันดร เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล


....................ซุ้มรักนิรันดร เกาะไข่ จ.สตูล....................




     ใกล้ๆ กับซุ้มรักนิรันดรมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่สลักบทกลอนอันไพเราะเอาไว้ด้วยใจความว่า “ประตูหินโค้ง...ตะรุเตา...สตูล จุดเพิ่มพูนตำนานรักหนุ่มสาว แดนประเดิมเสริมรักให้ยืนยาว สองเราก้าวสู่ประตู...รักนิรันดร” ทำให้ดูคล้ายว่าเกาะไข่แห่งนี้จะมีตำนานรักสุดแสนโรแมนติกอันเป็นที่มาของชื่อ “ซุ้มรักนิรันดร” แต่จากข้อมูลที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมได้ลองสืบค้นโดยการสอบถามกับประชาชนคนพื้นถิ่นกลับพบความเป็นจริงอันเรียบง่ายซึ่งอธิบายที่มาของชื่อ “ซุ้มรักนิรันดร” อย่างชัดเจนว่า มันถูกตั้งขึ้นเอาเองภายหลังเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว จ.สตูล สมัยก่อนซุ้มประตูหินนี้ก็อยู่ของมันมาโดยไม่ได้มีชื่อเรียกใดๆ และไม่ได้มีตำนงตำนานอะไรเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของหนุ่มๆ สาวๆ หรอก.........โอ๊ว.....ว....ว...ว..ว.........งงไหมล่ะนี่ ? ..........จากเรื่อง “รักโรแมนติก” กลับกลายเป็นเรื่อง “ฮา.....แตกซิก” ซะอย่างงั้น ? (ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมไม่ได้มีเจตนาที่จะดูถูก ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามความเป็นมาของชื่อ “ซุ้มรักนิรันดร” และต้องกราบขออภัยหากทำให้ผู้ใดไม่พอใจเมื่อได้อ่านบทความชิ้นนี้ แต่จากข้อมูลที่พวกเราลองสอบถามกับคนท้องถิ่นหลายๆ คนก็ไม่ปรากฏความเป็นมาเกี่ยวกับชื่อ “ซุ้มรักนิรันดร” เลยแม้แต่น้อย จะมีก็แค่ผู้ซึ่งให้ข้อมูลในลักษณะที่ได้เขียนไว้ดังกล่าวข้างต้นเท่านั้นจริงๆ ครับ)



เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

.........................หาดทรายฝั่งตะวันออก.........................

         
เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

.........................หาดทรายฝั่งตะวันตก.........................


      

     อย่างไรก็ตาม..........เกาะไข่ จ.สตูล ไม่ได้มีดีแค่ “ซุ้มรักนิรันดร” เท่านั้น หากแต่หาดทรายสีขาวอมน้ำตาลอ่อนเนื้อเนียนละเอียดดั่งผงแป้งและน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าใสราวกับมรกต รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังที่อยู่รายล้อมรอบเกาะก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมตัดสินใจเช่าเหมาเรือหางยาวจากเกาะหลีเป๊ะเดินทางมาสำรวจเกาะแห่งนี้กันโดยละเอียด


     เหตุไฉนใยเจ้าจึงชื่อเกาะไข่?

     เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาเล่าให้พวกเราฟังว่า เหตุผลที่ทำให้เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่า “เกาะไข่” นั้นไม่ใช่เพราะสีของหาดทรายที่สวยงามคล้ายกับสีเปลือกไข่  แต่เนื่องจากในอดีตมักจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่บนเกาะอยู่เป็นประจำ คนท้องถิ่นจึงมักจะเรียกเกาะแห่งนี้ด้วยความคุ้นเคยว่า “เกาะไข่” นั่นเอง

           
เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

ไม้งาม.....น้ำใส.....ทรายสวย


เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

วันหนึ่ง ณ "เกาะไข่ จ.สตูล"




     เกาะเล็กๆ แต่มีความงดงามไม่น้อย
เกาะไข่ จ.สตูล มีแนวหาดทรายที่ยาวและงดงามอยู่สองฟาก ได้แก่ หาดทรายทางฝั่งทิศตะวันตก (ฝั่งเดียวกันกับ “ซุ้มรักนิรันดร”) และหาดทรายทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหาดทรายทั้งสองฟากฝั่งนี้จะทอดตัวยาวมาบรรจบกันบริเวณเนินเขาหินทางด้านทิศใต้ของเกาะ หากลองปีนป่ายขึ้นไปบนเนินเขาหินเตี้ยๆ ลูกนี้แล้วมองย้อนกลับเข้าไปยังใจกลางเกาะไข่ก็จะสามารถมองเห็นแนวหาดทรายทั้งสองฝั่งที่ค่อยๆ โค้งเว้าเข้ามาบรรจบกันได้อย่างชัดเจน โดยปกติเรือเร็ว (speedboat) ในเส้นทาง “ปากบาราเกาะตะรุเตาเกาะหลีเป๊ะ” จะแวะมาจอดเทียบบริเวณชายหาดด้านทิศตะวันตกให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป “ซุ้มรักนิรันดร” เป็นเวลาประมาณ 15 – 20 นาที แต่จะไม่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ ใครที่อยากลองดำน้ำตื้นสำรวจความสวยงามของแนวปะการังรอบๆ เกาะไข่จะต้องเช่าเหมาเรือมาท่องเที่ยวเองแบบเป็นส่วนตัวเท่านั้น



เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

.........................Happy Time.........................




     นอกเหนือไปจากชายหาดยาวอันงดงามทางฝั่งทิศตะวันตกและตะวันออกเฉียงใต้แล้ว เกาะไข่ จ.สตูล ยังมีชายหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบอยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะด้วย น่าเสียดายที่ชายหาดแห่งนี้ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่นัก ใครเช่าเหมาเรือมาท่องเที่ยวเกาะไข่และต้องการพักผ่อนในบรรยากาศซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงอาจบอกให้เรือเข้าเทียบฝั่งบริเวณชายหาดเล็กๆ แห่งนี้ก็ได้

     “ปลาสิงโตกับ ประสบการณ์ดำน้ำตื้นสุดประทับใจ

หลังจากที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมใช้เวลาเดินสำรวจ ถ่ายภาพ และรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะไข่อยู่ราวๆ 2 – 3 ชม. ก็ถึงคราออกลีลาโชว์ท่าพะยูนพุ้ยน้ำดำดิ่งลงค้นหาความงดงามภายใต้ท้องทะเลใสกันเสียที ถึงแม้ว่าพวกเราบางคนจะออกอาการเซ็งๆ ที่กล้องถ่ายภาพใต้น้ำเกิดชำรุดเสียหายขณะกำลังเก็บภาพถ่าย “หนอนฉัตร” บริเวณเกาะดงเมื่อ 1 วันก่อน แต่ก็ไม่มีใครยอมพลาดโอกาสลงดำน้ำตื้นรอบๆ เกาะไข่เลยแม้แต่คนเดียว


เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

.........................By The Sea .........................



     นายท้ายเรือลูกหลาน “ชาวอูรัก ลาโว้ย” ใช้เวลาล่องเรือวนเวียนไปมาเพื่อค้นหาจุดที่สามารถทิ้งสมอเรือลงได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ก่อความเสียหายต่อแนวปะการังประมาณ 5 – 10 นาที แล้วจึงปล่อยให้พวกเราหย่อนบั้นท้ายลงทะเล ณ จุดดำน้ำตื้นด้านทิศตะวันตกของเกาะไข่ น่าแปลกที่จุดดำน้ำตื้นบริเวณนี้ไม่ค่อยมีปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง (หรือที่นักท่องเที่ยวทั่วไปมักจะเรียกกันว่าปลาเสือ) ซึ่งมักจะพบเห็นได้บ่อยๆ ตามจุดดำน้ำยอดนิยมหลายๆ แห่ง แต่กลับมีปลาสีดำตัวยาวๆ ขนาด 10 – 20 ซม. รวมกันอยู่เป็นฝูงตามซอกหลืบของโขดหินใต้น้ำแทน (จริงๆ แล้วหากแนวปะการังบริเวณจุดดำน้ำมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร และไม่ค่อยพบปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้มีโอกาสได้พบเห็นปลาชนิดอื่นๆ ง่ายขึ้น เนื่องจากปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลืองเป็นปลาที่ไม่กลัวคน ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง มีนิสัยก้าวร้าว และจะทำการขับไล่ปลาชนิดอื่นๆ ให้ออกไปจากอาณาเขตซึ่งตนเองหากินอยู่..........เพราะฉะนั้นการที่นักท่องเที่ยวรวมถึงมัคคุเทศก์นิยมนำเศษอาหาร/ขนมปังมาโปรยให้ปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลืองกินโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล ก็เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งจะทำให้การพบเห็นปลาชนิดอื่นๆ ในบริเวณนั้นๆ เป็นไปได้ยากลำบากขึ้นครับ)

                  
เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล 

หากขึ้นไปยืนบนเนินหินด้านทิศใต้
จะสามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวทั้งสองฟากของ "เกาะไข่ จ.สตูล" ได้อย่างชัดเจน


เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

เวิ้งอ่าวฝั่งตะวันออกในมุมมองแบบกว้างไกลสุดสายตา



     ปะการังที่พวกเราสังเกตเห็น ณ จุดดำน้ำตื้นด้านทิศตะวันตกของเกาะไข่นี้ ได้แก่ ปะการังโขด , ปะการังลายดอกไม้ , ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง ฯลฯ กระจายตัวกันอยู่ห่างๆ ไม่หนาแน่นและไม่อุดมสมบูรณ์เท่ากับแนวปะการังบริเวณหมู่เกาะอาดัง – ราวี , เกาะดง , เกาะผึ้ง และเกาะไผ่ แต่ในขณะที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมบางคนกำลังออกอาการเบื่อๆ เพราะความสวยงามของแนวปะการังยังไม่ถึงขั้นสาแก่ใจนั่นเอง “น้องอร (หนึ่งใน Webmaster คนสำคัญของท่องเที่ยวดอทคอม)” ซึ่งกำลังลอยคอขึ้นอืดอย่างเพลิดเพลินอยู่กลางทะเลก็เหลือบไปเห็น “ปลาสิงโตลายขวาง” กำลังสยายครีบอกแหวกว่ายอย่างสง่างามอยู่เหนือแนวโขดหินปะการังเบื้องล่าง !!



เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล


หาดทรายที่มีสีสวยราวกับเปลือกไข่


   
     ด้วยเสียงร้องเรียกอันไพเราะราวกับโทรโข่งกระบอกแตกของ “น้องอร” ทำให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมที่แหวกว่ายกระจายตัวอยู่ตามทิศทางต่างๆ ค่อยๆ เคลื่อนย้ายมาชุมนุมกันเพื่อสังเกตการณ์เจ้าปลาสิงโตขนาดเขื่องตัวนี้..........เท่าที่พวกเราลองประเมินคราวๆ จากสายตาดูก็พบว่าความยาวจากหัวจรดหางของปลาสิงโตลายขวางที่ “น้องอร” ค้นพบ น่าจะมีขนาดไม่ต่ำกว่า 30 – 40 ซม. ซึ่งถือได้ว่าเป็นปลาสิงโตที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเปรียบเทียบกับปลาสิงโตที่พบเห็นอยู่ตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าทึ่งมากกว่าขนาดลำตัวของปลา ก็คือ เจ้าปลาสิงโตยักษ์ตัวนี้มีลวดลายเป็นแถบสีขาวเล็กๆ สลับกับแถบสีฟ้าอมเขียว !! (โดยปกติปลาสิงโตที่พบเห็นตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำส่วนใหญ่จะมีลวดลายเป็นแถบสีขาวสลับกับแถบสีน้ำตาลแดงครับ) นับว่าเป็นปลาสิงโตที่แปลกที่สุดเท่าที่พวกเราเคยเห็นมาเลยทีเดียว (ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมคาดว่าการที่ลวดลายแถบคาดของปลาสิงโตตัวนี้เป็นสีขาวสลับกับสีฟ้าอมเขียวก็เพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของน้ำทะเลรอบข้างซึ่งมีความลึกเพียงแค่ 4 – 6 เมตรจากระดับพื้นผิวเท่านั้น)


เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

หากลงดำน้ำแล้วสังเกตให้ดีๆ บางทีก็อาจได้พบปลาสิงโตด้วยนะ !!


เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เกาะไข่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

.........................รอบๆ "เกาะไข่" .........................




     ท่วงท่าลีลาการแหวกว่ายของปลาสิงโตลายขวางนั้นดูองอาจ.....สง่างามด้วยการสยายครีบอกออกกว้างแล้วใช้ครีบหางพัดโบกช้าๆ เพื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในลักษณะคล้ายกับเครื่องร่อน ถึงแม้จะมีผู้คนลอยตัวอยู่บนผิวน้ำเพื่อเฝ้าสังเกตแต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าปลาสิงโตตัวนี้จะไม่รู้สึกยี่หระใดๆ ยังคงลอยตัวเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ราวกับราชาแห่งท้องทะเลผู้เย่อหยิ่ง..........เฮ้อ.....อ....อ...อ..อ..........ถ้ากล้องถ่ายภาพใต้น้ำไม่เจ๊งไปก่อนหน้านี้ พวกเราคงมีโอกาสได้เก็บบันทึกภาพช่วงเวลาอันน่าประทับใจสุดๆ ไปอวดให้ทุกๆ คนดูอย่างแน่นอน

     ..........ดวงตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำในยามบ่ายแก่ๆ..........พวกเราดำผุดดำว่ายอยู่กลางท้องทะเลกว้างจนใกล้จะหมดแรง สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศและโบกโบยถี่กระชั้นยิ่งขึ้น นายท้ายเรือเคยบอกกับพวกเราขณะนั่งเรือมาตั้งแต่ช่วงเช้าว่า ไม่แนะนำให้เล่นน้ำอยู่ที่เกาะไข่จนเย็นย่ำเพราะกลางท้องทะเลจะมีกระแสคลื่นลมรุนแรงจนทำให้เดินเรือได้ลำบาก ณ บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายคล้ายกำลังกระตุ้นเตือนให้พวกเราได้รับรู้ว่า.....ถึงเวลาต้องจำจากจรแล้ว..........ลาก่อนเกาะไข่ และ หวังว่าจะได้พบกันใหม่นะเจ้าปลาสิงโตยักษ์..........

     โทรศัพท์ติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
: (074) 783 – 485 , (074) 783 – 597

     
ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม
: เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกๆ ปี (ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 15 พฤศจิกายน ของทุกๆ ปีเป็นช่วงปิดฤดูกาลท่องเที่ยว)

     การเดินทางสู่เกาะไข่ สตูล :

     เรือเร็ว โดยปกตินักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วเรือเร็ว (speedboat) ในเส้นทางปากบารา – เกาะตะรุเตา – เกาะหลีเป๊ะ จะได้ลงไปแวะถ่ายรูป ณ ซุ้มรักนิรันดรบนเกาะไข่ประมาณ 15 – 20 นาที ส่วนนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วเรือเฟอรี่ (ferryboat) จะไม่มีโอกาสได้แวะลงไปยังเกาะไข่ เนื่องจากเรือเฟอรี่เป็นเรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าจอดเทียบบริเวณหาดทรายของเกาะได้ [มีบ้างบางกรณีที่นักท่องเที่ยวซึ่งซื้อตั๋วเรือเร็วจะไม่ได้แวะลงไปถ่ายรูปซุ้มรักนิรันดรบนเกาะไข่ เช่น นักท่องเที่ยวซื้อตั๋วเรือเร็วเดินทางในช่วงวันหยุดต่อเนื่องตามเทศกาลต่างๆ และผู้ประกอบการเลือกใช้เรือเร็วลำใหญ่ขนาด 50 ที่นั่งขึ้นไปทำให้เรือไม่สามารถเข้าจอดเทียบบริเวณชายหาดเกาะไข่ได้ หรือกรณีที่เรือเร็วลำนั้นๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวซึ่งซื้อแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำตื้นรอบเกาะหลีเป๊ะโดยสารมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียว (มีแต่นักท่องเที่ยวที่ซื้อเฉพาะตั๋วเรือ) ผู้ประกอบการอาจจะไม่จอดเรือแวะให้ถ่ายรูปซุ้มรักนิรันดรก็เป็นได้ เพราะถือว่าราคาตั๋วเรือเร็วไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการแวะเที่ยวชมเกาะไข่อยู่ด้วย..........อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวมากกว่าร้อยละ 80 ที่ซื้อตั๋วเรือเร็วปากบารา – เกาะตะรุเตา – เกาะหลีเป๊ะจะมีโอกาสได้แวะลงไปถ่ายรูปซุ้มรักนิรันดรบนเกาะไข่ครับ (สรุป คือ ถ้าไม่ดวงแย่จริงๆ ปกติก็จะได้แวะถ่ายรูปบนเกาะไข่ค่อนข้างแน่นอนครับ)]

     เรือหางยาว นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเหมาเรือหางยาวจากเกาะหลีเป๊ะมายังเกาะไข่ได้โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 – 1½ ชม. (ระยะทางจากเกาะหลีเป๊ะมายังเกาะไข่ประมาณ 25 – 30 กม.) ทั้งนี้ควรเชื่อฟังคำแนะนำของนายท้ายเรือเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทาง เนื่องจากบางช่วงของวันจะมีกระแสคลื่นลมทะเลรุนแรงไม่เหมาะแก่การเดินทาง (บางวันก็อาจไม่สามารถเดินทางมายังเกาะไข่โดยเรือหางยาวได้เลยครับ)

 

เกาะสำคัญแห่งอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
(กรุณาคลิ๊ก “ ชื่อเกาะ” เพื่อชมภาพถ่ายและข้อมูลของแต่ละเกาะโดยละเอียด)


  

 

     หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล “เกาะไข่ สตูล” เมื่อเดือน ก.พ. 2554 ข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ในปัจจุบัน






 


แผนผังเว็บไซต์ (Site Map)


บทความและภาพทุกภาพภายในเว็บไซต์หน้านี้เป็นลิขสิทธิ์ของท่องเที่ยวดอทคอม
(www.Thongteaw.com)
หากผู้ใดทำการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไขหรือนำไปใช้ในกรณีใด ๆ
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางทีมงาน
จะถูกดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด


Copy right © Since 2008 by Thongteaw.com - All Rights Reserved
เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็คโทรนิคส์ 3102201494154